ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง หลังนำคณะลงตรวจสอบพบประชาชนมีปัญหาด้านสุขภาพขั้นรุนแรง ซึ่งเป็นผลจากการบังคับใช้กฏหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่จริงจังจนส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งละเลยการติดตั้งเครื่องกำจัดมลพิษทางอากาศ ชี้รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพในการเปิดโต๊ะเจรจาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหลังเชิญต่างชาติเข้ามาลงทุน ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้หน่วยงานภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ยกปัญหามาบตาพุดเป็นกรณีศึกษาหลังพบการเข้ามาของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เริ่มมีมากขึ้น
นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เผยหลังนำคณะลงพื้นที่ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการเข้ามาของภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี หลังจากที่รัฐบาลในชุดที่ผ่านมาๆ ได้สนับสนุนและเชิญชวนนักลงทุนให้เข้าลงทุนด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในเขตเซาท์เทิร์นซีบอร์ด แต่ได้รับการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ภาคใต้จนสุดท้ายต้องผลักโครงการดังกล่าวให้เข้ามาตั้งอยู่ในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด โดย เฉพาะในพื้นที่ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยองว่า การเข้ามาของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานอุตสาหกรรมจริง
โดยสารที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศส่งผลต่อสุขภาพของคนในชุมชนมาบตาพุดทั้งในเรื่องทางเดินหายใจ หืดหอบ และโรคผิวหนัง ที่สำคัญสารเคมีต่างๆ ก่อให้เกิดฝนกรดจนทำให้ต้นไม้ที่อยู่โดยรอบนิคมอุตสหากรรมมาบตาพุดไม่สามารถเติบโตได้ และน้ำฝนยังไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภค
“สมัยรัฐบาลนายกฯ สุรยุทธ์ ก็มีนโยบายส่งเสริมการลงทุน ซึ่งกลุ่ม ส.ส.ร.2 ที่ร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ก็ได้กำหนดมาตรา 67 ขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาด้านมลพิษที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการลงทุน ในวันนี้จึงถือเป็นจังหวะดีที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งก็อยู่ในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ดจะยกปัญหาด้านมลพิษที่เกิดขึ้นในชุมชนมาบตาพุดเป็นกรณีศึกษา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้พื้นที่ตำบลแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา ซึ่งมีกลุ่มทุนเข้ามาเป็นจำนวนมากได้ยกระดับเป็นเมืองพิเศษ รวมถึงตำบลมาบตาพุดก็จะต้องถูกยกระดับให้เป็นเมืองพิเศษ ที่จะต้องมีการจัดผังเมืองใหม่ และกำหนดพระราชกฤษฏีกาเพื่อเวนคืนที่ดินโดยรอบโรงงานสำหรับสร้างชุมชนใหม่ที่จะต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลางเช่นกัน”
ทั้งนี้ การเป็นเมืองพิเศษนอกจากจะได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลางโดยตรงแล้ว ยังจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลและเยียวยาชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากในวันนี้ภาคอุตสาหกรรมสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมหาศาล แต่รัฐบาลกลับไม่เคยเหลียวแลชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ภาษีซึ่งถูกจัดเก็บในพื้นที่ก็ถูกผลักเข้าส่วนกลางแทนที่จะถูกนำกลับไปพัฒนาท้องถิ่น
จี้รัฐบาลตั้งโต๊ะแก้ปัญหา หลังเชิญต่างชาติเข้าลงทุน
นายสุรชัยยังเผยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในมาบตาพุดวันนี้ว่า รัฐบาลจะต้องเป็นเจ้าภาพโดยตรงในการแก้ไขปัญหา ร่วมกับ ส.ส.ที่มีอยู่ในพื้นที่ซึ่งจะต้องเป็นผู้ประสานงานกับชาวบ้านเพื่อให้เกิดการเจราและพูดคุยกัน ที่สำคัญรัฐบาลอย่าหลงทางเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจ แต่ในเมื่อรัฐบาลได้เชิญนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนแล้ว ก็จะต้องเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้
“สิ่งสำคัญในการดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อม และมลพิษทางอากาศ ก็คือ การบังคับใช้กฎหมายที่จะต้องมีความเข้มงวดและจริงจัง รวมถึงการกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องติดตั้งเครื่องกำจัดมลพิษ โดยในส่วนของจังหวัดชลบุรี การนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จะต้องเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้มีการติดตั้งอุปกรณ์วัดมลพิษทางอากาศในจุดต่างๆ และยังจะต้องให้ชุมชนโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโรงงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกับมาบตาพุด” นายสุรชัยกล่าว
นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เผยหลังนำคณะลงพื้นที่ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการเข้ามาของภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี หลังจากที่รัฐบาลในชุดที่ผ่านมาๆ ได้สนับสนุนและเชิญชวนนักลงทุนให้เข้าลงทุนด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในเขตเซาท์เทิร์นซีบอร์ด แต่ได้รับการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ภาคใต้จนสุดท้ายต้องผลักโครงการดังกล่าวให้เข้ามาตั้งอยู่ในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด โดย เฉพาะในพื้นที่ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยองว่า การเข้ามาของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานอุตสาหกรรมจริง
โดยสารที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศส่งผลต่อสุขภาพของคนในชุมชนมาบตาพุดทั้งในเรื่องทางเดินหายใจ หืดหอบ และโรคผิวหนัง ที่สำคัญสารเคมีต่างๆ ก่อให้เกิดฝนกรดจนทำให้ต้นไม้ที่อยู่โดยรอบนิคมอุตสหากรรมมาบตาพุดไม่สามารถเติบโตได้ และน้ำฝนยังไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภค
“สมัยรัฐบาลนายกฯ สุรยุทธ์ ก็มีนโยบายส่งเสริมการลงทุน ซึ่งกลุ่ม ส.ส.ร.2 ที่ร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ก็ได้กำหนดมาตรา 67 ขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาด้านมลพิษที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการลงทุน ในวันนี้จึงถือเป็นจังหวะดีที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งก็อยู่ในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ดจะยกปัญหาด้านมลพิษที่เกิดขึ้นในชุมชนมาบตาพุดเป็นกรณีศึกษา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้พื้นที่ตำบลแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา ซึ่งมีกลุ่มทุนเข้ามาเป็นจำนวนมากได้ยกระดับเป็นเมืองพิเศษ รวมถึงตำบลมาบตาพุดก็จะต้องถูกยกระดับให้เป็นเมืองพิเศษ ที่จะต้องมีการจัดผังเมืองใหม่ และกำหนดพระราชกฤษฏีกาเพื่อเวนคืนที่ดินโดยรอบโรงงานสำหรับสร้างชุมชนใหม่ที่จะต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลางเช่นกัน”
ทั้งนี้ การเป็นเมืองพิเศษนอกจากจะได้รับการดูแลจากรัฐบาลกลางโดยตรงแล้ว ยังจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลและเยียวยาชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากในวันนี้ภาคอุตสาหกรรมสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมหาศาล แต่รัฐบาลกลับไม่เคยเหลียวแลชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ภาษีซึ่งถูกจัดเก็บในพื้นที่ก็ถูกผลักเข้าส่วนกลางแทนที่จะถูกนำกลับไปพัฒนาท้องถิ่น
จี้รัฐบาลตั้งโต๊ะแก้ปัญหา หลังเชิญต่างชาติเข้าลงทุน
นายสุรชัยยังเผยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในมาบตาพุดวันนี้ว่า รัฐบาลจะต้องเป็นเจ้าภาพโดยตรงในการแก้ไขปัญหา ร่วมกับ ส.ส.ที่มีอยู่ในพื้นที่ซึ่งจะต้องเป็นผู้ประสานงานกับชาวบ้านเพื่อให้เกิดการเจราและพูดคุยกัน ที่สำคัญรัฐบาลอย่าหลงทางเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจ แต่ในเมื่อรัฐบาลได้เชิญนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนแล้ว ก็จะต้องเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้
“สิ่งสำคัญในการดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อม และมลพิษทางอากาศ ก็คือ การบังคับใช้กฎหมายที่จะต้องมีความเข้มงวดและจริงจัง รวมถึงการกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องติดตั้งเครื่องกำจัดมลพิษ โดยในส่วนของจังหวัดชลบุรี การนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จะต้องเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้มีการติดตั้งอุปกรณ์วัดมลพิษทางอากาศในจุดต่างๆ และยังจะต้องให้ชุมชนโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโรงงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกับมาบตาพุด” นายสุรชัยกล่าว
