ฉะเชิงเทรา - เจ้าหน้าที่ยังปราบได้ไม่หมดสิ้น แก๊งตุ๋นจ้อฮัลโหลโทร.ลวงคืนชีพ ออกหากินบนโลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสารอันทันสมัย เริ่มอาระวาดเป็นภัยต่อสังคมได้อีกรอบ หลังส่งข้อความเสียงโทร.ลวงเหยื่ออ้างยังมีเงินภาษีขอคืนจากกรมสรรพากรที่ยังไม่ได้รับคืน แต่หลังถูกบุคคลเป้าหมายซักถามล้วงลึกกลับรีบวางหูหนีหายไป
วันนี้ (27 ต.ค.) เวลา 15.00 น. นายสนทะนาพร อินจันทร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับโทรศัพท์เป็นข้อความแบบเสียงตอบรับอัตโนมัติ จากหมายเลขต้นทางที่เครื่องโทรศัพท์ระบุว่า “ไม่สามารถแสดงได้” (ไม่โชว์เบอร์) โทร.เข้ามายังเครื่องโทรศัพท์หมายเลขมือถือส่วนตัวว่า “ขณะนี้ท่านยังมีเงินเหลือจากการขอคืนภาษีประจำปี ที่ยังไม่ได้รับคืนอีกส่วนหนึ่ง หากต้องการฟังซ้ำกด 0 หากต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ กด 9”
เมื่อผู้สื่อข่าวได้กดหมายเลข 9 เข้าไปยังขั้นตอนต่อไป ได้มีพนักงานซึ่งลักษณะการพูดจา และลักษณะการใช้คำพูด ฟังออกได้ว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตัวจริง เป็นผู้รับสาย พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าพนักงานสรรพากร สำนักงานส่วนกลางพญาไท พร้อมกับทำทีสอบถามว่าต้องการติดต่อเรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวจึงได้บอกไปว่า ต้องการติดต่อขอคืนภาษีตามที่ได้มีข้อความเสียงโทร.เข้ามาแจ้ง เจ้าหน้าที่กำมะลอจึงได้เริ่มขั้นตอนของการลวงเป้าหมาย
พร้อมได้ถามถึงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และชื่อ-นามสกุล โดยที่ผู้สื่อข่าวยังไม่ตอบ แต่ได้แสร้งถามถึงรายละเอียดของการขอคืนเงินภาษีว่าหากต้องการที่จะเดินทางไปรับเองที่สรรพากรเขตพื้นที่ได้หรือไม่ ทางแก๊งตุ๋นได้อ้างว่าต้องรับที่สรรพากรส่วนกลางพญาไท ผ่านบัญชีธนาคาร
ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อไปว่า หากต้องการที่จะเดินทางไปรับเงินภาษีคืนที่ส่วนกลางด้วยตนเองนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งทางแก๊งตุ๋นโทร.ลวง ตอบกลับมาว่า จะต้องนำบัตรประชาชน และบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรแบบเดิมสีเหลือง พร้อมเอกสารรับรองการหักภาษี หากมีให้นำมาด้วย เมื่อเดินทางมาถึงทางสำนักงานจะออกบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีใบใหม่ให้เป็นสีฟ้า แบบสมาร์ทการ์ด และเมื่อถามอีกว่าการขอรับเงินคืนมีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ ทางแก๊งค์ตุ๋นจึงได้รีบวางสายของผู้สื่อข่าวทิ้งไป
ผู้สื่อข่าวเห็นว่าแก๊งตุ๋นดังกล่าว เป็นภัยต่อสังคม และอาจจะไปก่อเหตุโทรศัพท์หลอกลวงต้มตุ๋นผู้ที่ยังรู้ไม่เท่าทัน จนตกเป็นเหยื่อสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ตลอดจนได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จึงได้เห็นว่าควรนำเสนอข่าวนี้เพื่อแจ้งเตือนภัยให้แก่สังคมทราบโดยทั่วกัน
วันนี้ (27 ต.ค.) เวลา 15.00 น. นายสนทะนาพร อินจันทร์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับโทรศัพท์เป็นข้อความแบบเสียงตอบรับอัตโนมัติ จากหมายเลขต้นทางที่เครื่องโทรศัพท์ระบุว่า “ไม่สามารถแสดงได้” (ไม่โชว์เบอร์) โทร.เข้ามายังเครื่องโทรศัพท์หมายเลขมือถือส่วนตัวว่า “ขณะนี้ท่านยังมีเงินเหลือจากการขอคืนภาษีประจำปี ที่ยังไม่ได้รับคืนอีกส่วนหนึ่ง หากต้องการฟังซ้ำกด 0 หากต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ กด 9”
เมื่อผู้สื่อข่าวได้กดหมายเลข 9 เข้าไปยังขั้นตอนต่อไป ได้มีพนักงานซึ่งลักษณะการพูดจา และลักษณะการใช้คำพูด ฟังออกได้ว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตัวจริง เป็นผู้รับสาย พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าพนักงานสรรพากร สำนักงานส่วนกลางพญาไท พร้อมกับทำทีสอบถามว่าต้องการติดต่อเรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวจึงได้บอกไปว่า ต้องการติดต่อขอคืนภาษีตามที่ได้มีข้อความเสียงโทร.เข้ามาแจ้ง เจ้าหน้าที่กำมะลอจึงได้เริ่มขั้นตอนของการลวงเป้าหมาย
พร้อมได้ถามถึงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และชื่อ-นามสกุล โดยที่ผู้สื่อข่าวยังไม่ตอบ แต่ได้แสร้งถามถึงรายละเอียดของการขอคืนเงินภาษีว่าหากต้องการที่จะเดินทางไปรับเองที่สรรพากรเขตพื้นที่ได้หรือไม่ ทางแก๊งตุ๋นได้อ้างว่าต้องรับที่สรรพากรส่วนกลางพญาไท ผ่านบัญชีธนาคาร
ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อไปว่า หากต้องการที่จะเดินทางไปรับเงินภาษีคืนที่ส่วนกลางด้วยตนเองนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งทางแก๊งตุ๋นโทร.ลวง ตอบกลับมาว่า จะต้องนำบัตรประชาชน และบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรแบบเดิมสีเหลือง พร้อมเอกสารรับรองการหักภาษี หากมีให้นำมาด้วย เมื่อเดินทางมาถึงทางสำนักงานจะออกบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีใบใหม่ให้เป็นสีฟ้า แบบสมาร์ทการ์ด และเมื่อถามอีกว่าการขอรับเงินคืนมีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ ทางแก๊งค์ตุ๋นจึงได้รีบวางสายของผู้สื่อข่าวทิ้งไป
ผู้สื่อข่าวเห็นว่าแก๊งตุ๋นดังกล่าว เป็นภัยต่อสังคม และอาจจะไปก่อเหตุโทรศัพท์หลอกลวงต้มตุ๋นผู้ที่ยังรู้ไม่เท่าทัน จนตกเป็นเหยื่อสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ตลอดจนได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จึงได้เห็นว่าควรนำเสนอข่าวนี้เพื่อแจ้งเตือนภัยให้แก่สังคมทราบโดยทั่วกัน
