xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์ร้องรัฐผุด “ปางช้าง” เป็นแหล่งท่องเที่ยว - สร้างรายได้แก้ปัญหาเร่ร่อนถาวร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงสำคัญในครอบครัว ของชาวบ้านหมู่บ้านช้าง บ.โพนเงิน  ต.ท่าม่วง  อ.สตึก  จ.บุรีรัมย์
บุรีรัมย์ – หมู่บ้านช้าง อ.สตึก บุรีรัมย์ ร้องรัฐเร่งดำเนินโครงการช้างคืนถิ่น ผุด “ปางช้าง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าจังหวัด คนและช้างสามารถอยู่ได้ เพื่อแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนถาวร จวกที่ผ่านมารัฐไม่เคยจริงใจแก้ไขปัญหา

วันนี้ (26 ต.ค.) นายจันทร์ ทองโท กรรมการสมาคมช้างไทย และอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านช้าง บ.โพนเงิน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อน โดยดำเนินโครงการช้างคืนถิ่น ตามที่กลุ่มผู้เลี้ยงช้างได้ยื่นเสนอโครงการแก่รัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนอย่างจริงจัง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พวกเราต้องการให้รัฐบาล จัดทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ในรูปแบบของปางช้าง อย่างเช่น จ.เชียงใหม่ หรือ ศูนย์คชศึกษา จ.สุรินทร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและศึกษา พร้อมใช้บริการเพื่อให้ช้างและเจ้าของช้างมีรายได้เลี้ยงตัวเอง

“หากรัฐบาลดำเนินโครงการอย่างจริงจัง เชื่อว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนของ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ที่มีอยู่ร่วม 200 เชือก ได้อย่างยั่งยืนถาวรแน่นอน” นายจันทร์ กล่าว

นายจันทร์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันช้างเลี้ยงในหมู่บ้านโพนเงินมีอยู่จำนวน 60 เชือก แต่เหลืออยู่ในพื้นที่เพียงไม่กี่เชือกเท่านั้น เนื่องจากเจ้าของ หรือ ควาญช้าง ได้นำออกไปเร่ร่อนขายกล้วย อ้อย และบริการนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงทั้งคนและช้าง

ที่ผ่านมา สาเหตุที่ช้างไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้เนื่องจากพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ในเขต ต.ท่าม่วง ที่เคยเป็นแหล่งอาหารช้าง ได้ถูกชาวบ้านและกลุ่มนายทุนบุกรุกจนหมด ทำให้ช้างไม่มีแหล่งอาหาร จึงจำเป็นต้องนำช้างออกไปเร่ร่อน เพื่อนำเงินไปซื้ออาหารเลี้ยงทั้งคนและช้างเพื่อความอยู่รอด อยากเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามที่กลุ่มผู้เลี้ยงช้างได้ร้องขอดังกล่าวด้วย

นายจันทร์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา เคยเรียกร้องให้รัฐแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนมาตลอด แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขอยางจริงจังจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดคืออยากให้มีการจัดทำปางช้างอยู่ในพื้นที่สวนป่าโคกโจด อ.สตึก และ บริเวณเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง ซึ่งมีป่าไม้ อาหาร และ น้ำอุดมสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากจะแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนแล้ว ยังจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดในอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะที่ นายเหมา ทรัพย์มาก ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านช้าง บ.โพนเงิน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ช้างเลี้ยงในหมู่บ้านโพนเงินมีอยู่กว่า 60 เชือก จากทั้งอำเภอมีร่วม 200 เชือก ซึ่งถือว่ามีอยู่เป็นจำนวนมากไม่แพ้ จ.สุรินทร์ แต่ จ.สุรินทร์ มีศูนย์คชศึกษา ให้ผู้เลี้ยงช้างนำช้างเข้าไปร่วมในโครงการ ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวและศึกษา ทั้งมาใช้บริการช้างสร้างรายได้ให้กับช้าง และผู้เลี้ยงช้าง ลดปัญหาช้างเร่ร่อนได้ในระดับหนึ่ง

อีกทั้งขณะนี้ได้มีช้างเลี้ยงจาก บ.โพนเงิน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ต้องไปอาศัยอยู่ในศูนย์คชศึกษา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ประมาณ 20 เชือก เนื่องจากช้างและควาญช้างไม่มีอาชีพ หรือรายได้สำหรับเลี้ยงช้าง ถึงแม้ไปอยู่ที่ศูนย์คชศึกษาจะมีรายได้เพียงเดือนละ 8,000 บาท แต่ควาญช้างก็สามารถเลี้ยงชีพอยู่ได้และแก้ไขปัญหาอาหารเลี้ยงช้างได้ในระดับหนึ่ง

“ในกรณีดังกล่าวรัฐบาลควรเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มผู้เลี้ยงช้างในเขต อ.สตึก จ.บุรีรัมย์อย่างจริงจังได้แล้ว ไม่ใช่มัวแต่ไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุกับการผลักดัน ขับไล่ช้างและควาญช้างที่เข้าไปเดินเร่ร่อนหารายได้ตามจังหวัดต่างๆ” นายเหมา กล่าว


นายจันทร์  ทองโท กรรมการสมาคมช้างไทย
นายเหมา ทรัพย์มาก  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านช้าง บ.โพนเงิน
กำลังโหลดความคิดเห็น