ระยอง - กมธ.วุฒิสภา 5 คณะลงพื้นที่มาบตาพุดรับฟังผลกระทบมลพิษ ขณะที่ม็อบผู้ใช้แรงงานนับพันคนยื่นหนังสือประธาน กมธ. ชูป้ายระบุ “ชุมชนกับนิคมอยู่ร่วมกันได้” “พวกเราจะไม่ยอมให้ระงับโครงการก่อสร้าง”
วันนี้ (20 ต.ค.) คณะกรรมาธิการวุฒิสภา 5 คณะ ประกอบด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นายสมชัย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภา เป็นต้น ฯลฯ เดินทางโดยรถยนต์บัสไปที่บ้านนายน้อย ใจตั้ง อายุ 69 ปี หมู่บ้านคลองน้ำหู ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง มีประชาชนจากชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด ร่วมชี้แจงให้คณะกรรมาธิการทราบ
นายน้อย ชี้แจงว่า ที่ผ่านมา รัฐไม่เคยช่วยเหลืออย่างจริงจังกับคนท้องที่ ที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทุกวันนี้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำในบ่อน้ำตื้น อากาศเป็นพิษ ขยะพิษลอบทิ้งในที่สาธารณะ ทุกวันนี้ต้องซื้อน้ำกิน
“ผมเป็นห่วงเรื่องโรงงานถลุงเหล็ก 2 แห่งที่กำลังขออนุมัติสร้างเหนืออ่างเก็บน้ำดอกกรายและอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ.ปลวกแดง ที่ผ่านมาครอบครัวผมต้องสังเวยโรคมะเร็งไปแล้ว 6 ชีวิต สองมือนี้เผาศพมาแล้ว 6 ศพ ยังเหลือภรรยาอีก 1 คน กำลังเป็นมะเร็งใต้ตาซ้าย”
นางสุรินทร์ ยมโหง อดีตคนงานตัดหญ้าใน ปตท.แห่งหนึ่ง ขณะทำงานตัดหญ้าถูกฝน ทำให้เกิดอาการคันมาตลอด ปัจจุบันลาออกจากงานนานแล้ว หลังถูกฝนทำให้ผิวหนังตามร่างกายลอกหมดทั้งตัว ต้องทนทุกข์ทรมาน คณะกรรมาธิการได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ส่วน เด็กหญิงสุภัคตรา โตแหยม อายุ 14 ปี เลขที่ 25 ต.มาบตาพุด ปัจจุบันเรียน กศน.ชี้แจงว่า ขณะนั้นยังเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนมณีวรรณ ตลาดมาบตาพุด ขณะนั้นได้รับกลิ่นเหม็นจากโรงงานจนเกิดอาการเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก พอถูกแดดก็จะเกิดอาการคันตามร่างกาย ต่อมาญาติได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ หลังตรวจอาการแล้วแพทย์บอกว่าถ้ามีอาการแน่นหน้าอก มีอาการเหนื่อยหอบให้รีบไปพบแพทย์ ทางคณะกรรมาธิการได้รับฟังและบันทึกข้อมูล
จากนั้นคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่คณะกรรมาธิการวุฒิสภา จะเดินทางมาที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง กลุ่มม็อบผู้ใช้แรงงานจำนวน 1,000 คน นำโดย นายสุทธา เหมสถล นายกสมาคมท่องเที่ยว อ.บ้านฉาง-มาบตาพุด เดินทางมาชุมนุมหน้าทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง ข้างศูนย์ราชการเพื่อยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้ชูป้าย “ชุมชนกับนิคมอยู่ร่วมกันได้” “พวกเราจะไม่ยอมให้ระงับโครงการก่อสร้าง”
หลังจากนั้น กลุ่มม็อบได้เคลื่อนย้ายมาชุมนุมกันที่หน้าประตูทางเข้าศูนย์ราชการริมถนนสุขุมวิท โดยมี นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมารับหนังสือจาก นายสุทธา แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม จากนั้นผู้ใช้แรงงานได้สลายการชุมนุมเดินทางกลับ
นายสุรชัย กล่าวภายหลังว่า การมาลงพื้นที่ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ศาลปกครอง มีคำสั่งชั่วคราวให้ระงับ 76 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากสังคมทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ จึงได้นำทีมมาศึกษาข้อมูล เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาของมาบตาพุดอย่างยั่งยืน การมาครั้งนี้จึงมากันหลายคณะ โดยเฉพาะ กมธ.ด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งที่ว่า ต่อไปนี้การก่อสร้างโครงการต่างๆ ไม่ใช่ทำแต่เฉพาะผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แต่ต้องทำ HIA หรือผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนควบคู่กันไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมี กมธ.เศรษฐกิจการพาณิชย์ และอุตสาหกรรม ที่จะมาดูเรื่องผลกระทบของการลงทุน และ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ที่จะมาดูเรื่องมาตรา 66/67 ของรัฐธรรมนูญ ที่ให้สิทธิประชาชนสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้สิทธิประชาชนมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
