คกก.กลาง เตรียมดึงสรรพากรตรวจสอบโกดังข้าวโพด

ตาก - ประธานคณะกรรมการกลาง กลุ่มเกษตรแห่งประเทศไทย เตรียมให้สรรพากรร่วมตรวจสอบข้าวโพด หลังพบมีการสอดไส้แถมปริมาณข้าวโพดหายไปจากโกดังจำนวนมาก

นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลาง กลุ่มเกษตรแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการตรวจสอบวิธีปฏิบัติงาน ตามโครงการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรในการรับจำนำสินค้าเกษตรขององค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจโกดังรับฝากข้าวโพดขององค์การคลังสินค้าตามโครงการรับจำนำข้าวโพดในพื้นที่ จังหวัดตาก 17 แห่ง ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2552

คณะทำงานได้เก็บข้อมูลและถ่ายภาพเป็นหลักฐานเก็บไว้ทั้งหมด และได้ติดตามเฝ้าดูทุกระยะ จนทราบว่าหลังจากมีการตรวจและพบข้าวโพดหายไปจากสต็อก พบว่า มีเจ้าของโกดังที่รับฝากข้าวโพดได้มีความพยายามขนข้าวโพดเข้าไปเพิ่มเติมในส่วนที่หายไป เรามีภาพถ่ายเก็บไว้

นายอุบลศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ขอยืนยันว่า ขณะเข้าตรวจข้าวโพดขาดหายไปจึงถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ส่วนมีการนำข้าวโพดเข้ามาเพิ่มเติมนั้น จะให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคัดแยกข้าวโพดใหม่ข้าวโพดเก่าออกจากกัน ก่อนจะชั่งน้ำหนักข้าวโพด

นอกจากนี้ ตนเองจะประสานกรมสรรพากรให้ร่วมตรวจสอบตั้งแต่บัญชีเกษตรกรที่ร่วมโครงการ บัญชีการซื้อขายข้าวโพดของโกดังแต่ละแห่ง และประสานกับกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบบัญชีข้อมูลการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน ตามโครงการคอนแทรกฟาร์มมิง ว่ามีการนำเข้าเท่าไหร่ ข้าวโพดที่นำเข้าไปไหน โดยคณะทำงานมีข้อมูลการซื้อขายข้าวโพดทุกโกดังที่ร่วมโครงการ” นายอุบลศักดิ์ กล่าว

“ผมยินดีที่มีเจ้าของโกดังที่ออกมายืนยันว่าพร้อมให้มีการตรวจสอบ และขอยืนยันว่าคณะทำงานจะปฏิบัติอย่างโปร่งใส ใครทำผิดก็ว่ากันไปตามความผิด เพราะเงินที่นำมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวโพดเป็นเงินมาจากภาษีของประชาชน หากปล่อยปละละเลยประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ฉะนั้น การตรวจสอบจึงต้องทำอย่างโปร่งใสและจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

สำหรับการคัดแยกข้าวโพดดีและเสียตามโกดังที่คณะทำงานเข้าตรวจสอบนั้น จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าแห่งละ 1 สัปดาห์ เพราะปริมาณข้าวโพดมีจำนวนมาก หลังคัดแยกแล้วจึงจะนำข้าวโพดมาชั่งว่าเหลือเท่าไหร่ รัฐเสียหายไปเท่าไร จึงจะแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามความผิด” นายอุบลศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ได้เดินทางไปตรวจสอบสต๊อกเก็บข้าวโพดในโกดังตามโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/2552 ซึ่งพื้นที่ จ.ตาก มีเอกชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 17 แห่งที่ทำสัญญารับฝากข้าวโพด ว่า มีข้าวโพดในโกดังเก็บสินค้าครบตามสัญญาหรือไม่ หลังเข้าตรวจสอบมาแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีโกดังที่ร่วมโครงการส่อไปในทางทุจริต 11 แห่ง ซึ่งพบว่าในกระสอบข้าวโพดบางกระสอบมีการปลอมปนข้าวโพด ด้วยซังข้าวโพดและดินจำนวนมาก ซึ่งการการสังเกตพบว่ากระสอบข้าวโพดที่มีการปลอมปนจะมีการใช้สีพ่นเป็นเครื่องหมายกากะบาดไว้ปะปนกับกระสอบข้าวโพดที่เป็นของดี นายอุบลศักดิ์ จึงสั่งให้ทำการรื้อกองข้าวโพด โดยให้คัดแยกข้าวโพดดีไว้ส่วนหนึ่งและข้าวโพดปลอมปนไว้อีกส่วนหนึ่ง

เจ้าของโกดังที่รับฝากข้าวโพดรายหนึ่งที่ อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของรัฐบาล โดยทำสัญญารับฝากข้าวโพดไว้จำนวน 10,034 ตัน ระหว่างรับฝากโดยเก็บข้าวโพดไว้ในโกดังหลังเก่า ปรากฏว่า ในช่วงฤดูฝนฝนตกหนักน้ำไหลเข้าไปในโกดังเก็บข้าวโพด ทำให้ข้าวโพดเน่าเสีย จึงได้ให้คนงานคัดแยกของดีและของเสียออกจากนั้น แล้วนำไปเก็บที่โกดังหลังใหม่ แต่คนงานทำงานผิดพลาดนำข้าวโพดเสียไปปนกับข้าวโพดดีจึงทำให้เกิดปัญหา

โดยได้ทำหนังสือชี้แจงถึงผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ทราบแล้วว่า ข้าวโพดที่เน่าเสียเกิดจากน้ำฝนไหลเข้าไปในโกดังที่เก็บข้าวโพด ส่วนฝุ่นละอองและเม็ดข้าวโพดที่แตกปะปนอยู่นั้น เป็นความประมาทเลินเล่อของคนงานที่นำไปปนกับข้าวโพด ซึ่งขอรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดและยินดีคืนข้าวโพดที่ดีให้กับทาง อคส.