สุรินทร์ – ช้าง “พลายโกโก้” อาการดีขึ้นตามลำดับ ร่าเริงสามารถฝึกเดินขยับตัวไปมาได้ในบริเวณใกล้ๆ โดยใช้เครนช่วยพยุงตัว แถมดุเล็กน้อยไม่ยอมให้เข้าใกล้ หลังเข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสในสมอง ที่ รพ.ช้างสุรินทร์ ตั้งแต่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าอาการ “ช้างพลายโกโก้” ที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสในสมอง ไม่รู้สึกตัว สายตามองไม่เห็น ร่างกายอ่อนเพลีย ขาหน้าไม่มีแรงพยุงตัวให้ยืนได้ ที่โรงพยาบาลช้าง สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (14 ต.ค.) อาการโดยรวมของช้างพลายโกโก้ ดีขึ้นตามลำดับ สามารถใช้ขาหน้าฝึกเดินขยับตัวไป-มา ในบริเวณใกล้ๆ ได้ ด้วยการใช้เครนขนาดรับน้ำหนัก 50 ตัน ช่วยพยุงให้ช้างพลายโกโก้ยืน รวมทั้งสามารถใช้งวงจับกินอาหาร ทั้งกล้วยสุก กล้วยดิบ ต้นกล้วย ต้นอ้อยกินเองได้ และขับถ่ายเป็นปกติ
สัตวแพทย์หญิงภัทร เชื้อพลายเวช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สัตวแพทย์ยังคงให้ยาต้านไวรัส แต่ลดจำนวนครั้งน้อยลง และให้ยาบำรุง ร่างกาย พร้อมฝึกการทำกายภาพบำบัดให้ช้างได้ฝึกใช้ขาหน้าทั้ง 2 ข้างในการพยุงรับน้ำหนักตัวเองและเดินขยับตัวในพื้นที่ใกล้ๆ
ส่วนบาดแผลที่เกิดจากการนอนกดทับตามลำตัว ขณะนี้เริ่มแห้งและตกสะเก็ดมีเนื้องอกขึ้นมาใหม่ คาดว่าแผลจะหายเป็นปกติในอีกไม่นาน
“พลายโกโก้ เริ่มร่าเริง แต่มีอาการดุเล็กน้อย ไม่ยอมให้คนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งสัตวแพทย์เข้าใกล้ โดยพยายามใช้งวงหรือเท้าผลักป้องกันไม่ให้เข้าใกล้ เพราะเกรงจะทำให้เจ็บที่บาดแผล” สัตวแพทย์หญิงภัทร กล่าว
สำหรับการก่อสร้างบ่อน้ำเค็มเพื่อใช้ในการรักษาช้างป่วยด้วยวิธีวารีบำบัด สืบเนื่องมาจากการป่วยของ “ช้างพังกำไล” หรือ “พังแต๋น” ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และล้มหรือเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้นั้น ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากกว่า 40% แล้ว ช่างก่อสร้างกำลังเร่งมุงหลังคา ตั้งเครนยกขนาดใหญ่ สำหรับยกช้าง เข้ารักษาในบ่อน้ำวารีบำบัด ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานคงสามารถรักษาช้างด้วยวิธีวารีบำบัดได้