xs
xsm
sm
md
lg

ชมรมฮาร์เลย์-จยย.โบราณ กว่า 500 คน ยกพลเยี่ยม-ช่วยเหลือ “พังกำไล”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชมรมฮาร์เลย์และจยย.โบราณ จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์ และ ศรีสะเกษ กว่า 500 คน  ยกพลเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ช้างพังกำไลและทีมสัตวแทพย์ พร้อมบริจาคเงินช่วยเหลือ


สุรินทร์ – ชมรมฮาร์เลย์ และ จยย.โบราณ จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์ และ ศรีสะเกษ ยกพลเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ช้าง “พังกำไล” และทีมสัตวแพทย์ พร้อมร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ เผยอาการ “พังกำไล” ยังทรงตัว และพบเนื้อตายบริเวณแผลกดทับน้อยลง

วันนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลช้าง ในสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชมรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์และจักรยานยนต์โบราณ กว่า 500 คน ได้ร่วมกันเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ มาให้กำลังใจช้าง “พังกำไล” หรือ “พังแต๋น” รวมทั้งทีมงานสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ในการดูแลรักษาช้างพังกำไล ที่ได้รับบาดเจ็บขาขวาหักจากอุบัติเหตุรถยนต์ เข้าพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลช้างแห่งนี้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว

พร้อมทั้งได้บริจาคเงินจำนวนกว่า 40,000 บาท มอบให้แก่ สัตวแพทย์หญิง ภัทร เชื้อพลายเวช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดซื้ออาหารให้ช้าง รวมทั้งอาหาร น้ำดื่ม สำหรับทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เดินทางมาช่วยเหลือในการรักษาช้างพังกำไล

สัตวแพทย์หญิง ภัทร เชื้อพลายเวช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของช้างพังกำไล ว่า พังกำไลยังตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กินอาหารได้ ขับถ่ายได้ และคุ้นเคยกับทีมงานสัตวแพทย์เป็นอย่างดี ให้ความร่วมมือในการรักษาบาดแผลได้ดี

ในวันนี้ สัตวแพทย์ได้เริ่มลงมือในการตัดล้างบาดแผล และใช้กรรไกตัดเนื้อที่ตายบริเวณบาดแผลช่วงนอนกดทับด้านซ้ายของตัวช้าง ซึ่งพบว่าบาดแผลนั้นไม่ขยายพื้นที่ออกไป และเริ่มมีการตอบสนองในการรักษาที่ดีขึ้น บาดแผลเริ่มมีเนื้องอกมาใหม่

ส่วนเนื้อตาย สัตวแพทย์ได้เริ่มตัดทิ้งเป็นส่วนใหญ่ และทำการล้างบาดแผลทุกวัน ให้ยาแก้อักเสบ และยาฆ่าเชื้อ ให้กินวิตามินซีชนิดเข้มข้น ในการเสริมสร้างเนื้อใหม่ และให้กินวิตามินบีในการบำรุงร่างกายให้มีพละกำลัง แข็งแรง

“สำหรับประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็ยังเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจช้างพังกำไลอย่างต่อเนื่องทุกวันเช่นเคย” สัตวแพทย์หญิง ภัทร กล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น