“เว่ย หมิง” ตรวจลูกแพนด้าส่งท้าย มั่นใจไทยดูแลได้ดีแน่ เผยเล็งเปิดให้ชมอีก

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เว่ย หมิง” นำตรวจสุขภาพลูกแพนด้าส่งท้ายก่อนเดินทางกลับเมืองจีน สุดพอใจสุขภาพและพัฒนาการลูกแพนด้าไทย คาดไม่เกิน 3 วัน ลืมตาครบทั้งสองข้าง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นทีมงานสัตวแพทย์ไทยจะสามารถทำหน้าที่ต่อได้อย่างไร้ข้อบกพร่องแน่นอน ขณะที่สวนสัตว์เชียงใหม่เล็งเปิดให้ชมลูกแพนด้าอีกครั้งตอนอายุครบ 2 เดือนหรือวันเกิด “ช่วงช่วง” 6 สิงหา

วันนี้ (8 ก.ค.) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญแพนด้าจากประเทศจีน พร้อมด้วยทีมงานสัตวแพทย์โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ร่วมกันทำการตรวจสุขภาพลูกแพนด้า ภายในคอกกัก โดยไม่มีการแยกตัวออกจาก “หลินฮุ่ย” แม่หมีแพนด้ามาทำการตรวจเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจสุขภาพลูกแพนด้าในครั้งนี้มีขึ้นเป็นครั้งส่งท้ายก่อนที่นายเว่ย หมิง จะเดินทางกลับประเทศจีนในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เพื่อกลับไปดูแลแม่แพนด้าที่ตั้งท้องและลูกแพนด้าเกิดใหม่ในประเทศจีน โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งเดินทางมาทำหน้าที่แทนในวันที่ 12 ก.ค.52

ภายหลังการตรวจสุขภาพลูกแพนด้า นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญแพนด้าจากประเทศจีน เปิดเผยว่า จากการตรวจสุขภาพลูกแพนด้าในวันนี้พบว่ามีสุขภาพดี ซึ่งพัฒนาการร่างกาย ทั้งน้ำหนัก สีขน ดวงตา ถือว่าดีกว่าลูกแพนด้าทั่วไป และต่อไปมั่นใจว่าลูกแพนด้าจะมีน้ำหนักตัวและสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนดวงตาที่เพิ่งลืมตาข้างซ้ายเพียงข้างเดียวนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่จากการตรวจคาดภายใน 3 วันนี้ ลูกแพนด้าน่าจะลืมตาได้ครบทั้ง 2 ข้าง ขณะที่ “หลินฮุ่ย” ก็สามารถเลี้ยงดูลูกได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญแพนด้าจากประเทศจีน กล่าวว่า แม้ตัวเองจะต้องเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศจีนแล้ว แต่จากการที่ได้ทำงานร่วมกับทีมงานของไทยและได้ให้ข้อแนะนำ รวมทั้งถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ให้ทั้งหมด ตลอดจนที่ผ่านมาก็สามารถดูแล “ช่วงช่วง” และ “หลินฮุ่ย” ได้เป็นอย่างดีมาตลอด ทำให้วางใจและเชื่อมั่นว่าทีมงานของไทยจะสามารถเลี้ยงดูลูกแพนด้าให้มีสุขภาพแข็งแรงและเติบโตขึ้นมาได้เป็นอย่างดีแน่นอน ส่วนผู้เชี่ยวชาญจากจีนที่จะมาทำหน้าที่แทนตนเองนั้น ขอรับรองว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงในการดูแลหมีแพนด้า จึงขอให้วางใจได้

นอกจากนี้ นายเว่ย หมิง กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาที่ได้มาทำหน้าที่ช่วยดูแลลูกแพนด้าอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากในทุกๆ เรื่อง ทั้งที่พัก อาหารการกิน และการต้อนรับ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับอยู่ที่บ้าน และเมื่อกลับไปแล้วคงจะต้องรู้สึกคิดถึงลูกแพนด้าเป็นอย่างมากด้วย

ด้านสัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ผู้ดูแลลูกแพนด้า เปิดเผยผลการตรวจสุขภาพลูกแพนด้าว่า วันนี้ (8 ก.ค.) ชั่งน้ำหนักได้ 2,195 กรัม เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 125 กรัม วัดความยาวจากปลายจมูกถึงโคนหางได้ 40 เซนติเมตร เพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร ผิวหนังไม่มีบาดแผล หัวใจเต้นเป็นปกติและไม่มีอาการปอดบวม โดยการเข้าไปตรวจสุขภาพลูกแพนด้าในคอกกักโดยไม่แยกออกจากแม่นั้น เป็นเพราะต้องการให้ทั้งแม่และลูกแพนด้าได้อยู่ด้วยกันมากที่สุด รวมทั้งลูกแพนด้าจะได้ไม่ต้องเจอกับภาวะที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงนอกคอกกัก ซึ่งครั้งนี้พบว่า “หลินฮุ่ย” ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามการตรวจสุขภาพในครั้งต่อๆ ไปจะมีการพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งว่า จะทำการตรวจภายในคอกกักหรือแยกออกมาตรวจ ซึ่งการตรวจสุขภาพครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ค.52

ด้าน นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ตลอดช่วงการจัดงานเฉลิมฉลอง “สู่ข้าว เอาขวัญ แพนด้าน้อย” ระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค.52 ที่มีการเปิดให้ชมลูกแพนด้าและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชนและนักท่องเที่ยว จนมีการเรียกร้องให้มีการขยายเวลาการเปิดให้เข้าชมนั้น ขณะนี้กำลังมีการพิจารณาว่าอาจจะมีการเปิดให้ชมลูกแพนด้าอีกในโอกาสที่ลูกแพนด้ามีอายุครบ 2 เดือน หรือวันที่ 6 ส.ค.ที่จะถึงนี้ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของ “ช่วงช่วง” พ่อแพนด้า ซึ่งจะต้องมีการหารือถึงความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง โดยยึดสุขภาพของลูกแพนด้าเป็นหลัก