ลูกแพนด้าพัฒนาดีน้ำหนัก-ขนาดตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ลูกแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่พัฒนาการดี ทั้งน้ำหนักและขนาดตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยร่วมคณะ รมว.กระทรวงทรัพย์ บินตรงไปจีนเพื่อพูดคุยเบื้องต้นขอขยายเวลาครอบครัวแพนด้าอยู่ไทย

ช่วงสายวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญแพนด้าจากประเทศจีน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ทำการแยกลูกแพนด้าออกมาจากแม่หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” เพื่อตรวจสุขภาพ โดยผลการตรวจสุขภาพพบว่าลูกแพนด้ายังคงมีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ

สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ผู้ดูแลแพนด้า เปิดเผยผลการตรวจสุขภาพลูกแพนด้าว่า ลูกแพนด้ายังคงมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และมีพัฒนาการที่ดี โดยวันนี้ชั่งน้ำหนักได้ 630 กรัม เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน 130 กรัม ความยาวตั้งแต่ปลายจมูกถึงโคนหางเพิ่มขึ้นเป็น 24 เซนติเมตร จาก 22 เซนติเมตร หางยาว 7.5 เซนติเมตร ขณะที่รอบพุงวัดได้ 22.4 เซนติเมตร อกวัดได้ 22 เซนติเมตร และขายาว 6.5 เซนติเมตร ขีดที่ดวงตาและร่องหูมีความชัดเจนมากขึ้น เช่นเดียวกับขนที่ดกมากกว่าเดิม

ขณะที่ นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (12 มิ.ย.) จะร่วมเดินทางไปประเทศจีน กับคณะของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพูดคุยทำความรู้จักกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลแพนด้าของจีน ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรป่าไม้และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าของจีน โดยจะมีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินการโครงการวิจัยหมีแพนด้าในประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จในการให้กำเนิดลูกแพนด้า

รวมทั้งบอกกล่าวถึงความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อลูกแพนด้า และความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์วิจัยแพนด้าร่วมไทย-จีน ที่เชียงใหม่ เพื่อให้แพนด้าทั้งครอบครัวได้อยู่ในไทยต่อไป ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้ยังเป็นเพียงการแจ้งให้ทางจีนทราบ ความต้องการของไทยก่อนแล้วสะท้อนกลับมาว่าไทยจะต้องมีการเตรียมข้อมูล เพื่อการเจรจาในขั้นสูงอย่างไรต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยจะเดินทางไปประเทศจีนในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อทำการเจรจาในขั้นต่อไป

สำหรับการประกวดตั้งชื่อลูกแพนด้านั้น หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า เฉพาะในส่วนของสวนสัตว์เชียงใหม่ถึงวันนี้ (12 มิ.ย.) มีไปรษณียบัตรที่ส่งชื่อเข้ามาประกวดแล้วหลายหมื่นฉบับ ซึ่งหลังจากหมดเขตทางเจ้าหน้าที่จะทำการรวบรวมคัดกรองเพื่อส่งให้ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย ทำการประมวลผลต่อ ทั้งนี้ ในการคัดกรองนั้น จะต้องมีการพิจารณาชื่อที่มีความหมายด้วย ก่อนที่จะให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาคัดเลือกชื่อที่เหมาะสมในขั้นต่อไป จนเหลือสุดท้ายเพียง 4 ชื่อ ให้ประชาชนร่วมโหวต