เชียงใหม่ - รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาการบริการทางการแพทย์ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่า เพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ Grant Assistance for Grassroots Human Security Projects Scheme (จีจีพี)โดยมอบรถพยาบาลและเครื่องมือทางการแพทย์ มูลค่า3,070,000.00บาท เพื่อประชาชนในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นางจุนโกะ โยะโคะตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กล่าวว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้พยายามสนับสนุนการพัฒนาศักดยภาพด้านสาธารณสุขขั้นพื้นฐานแก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งรวมถึงโครงการในภาคเหนือของไทย ได้แก่การก่อสร้างศูนย์สนับสนุนสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ของโรงพยาบาลแม่แตงและโรงพยาบาลสะเมิงในจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนมอบรถพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตกลงสนับสนุนโครงการพัฒนาการบริการทางการแพทย์สำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ทุรกันดารอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์[Grant Assistance for Grassroots Human Security Projects Scheme (จีจีพี)] เป็นมูลค่า3,070,000.00บาท เพื่อนำไปจัดซื้อรถพยาบาล 1 คัน รถขับเคลื่อน 4 ล้อ 1 คันและเครื่องกระตุ้นหัวใจ1 ชุด ให้กับโรงพยาบาลปาย เพื่อช่วยให้บริการทางการแพทย์สามารถเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารของจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มากขึ้น
รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นว่า โรงพยาบาลปายเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลเพียงแห่งเดียวที่มีการให้บริการด้านสาธารณสุขในพื้นที่อำเภอปาย ในแต่ละวันทางโรงพยาบาลมีภาระที่จะต้องให้การรักษาผู้ป่วยอยู่ถึงประมาณ 200 คนจากชาวบ้านอำเภอปายที่มีกว่า 40,000 ชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นทางโรงพยาบาลยังให้บริการผู้ป่วยอย่างมีมนุษยธรรม โดยมิได้คำนึงถึง ฐานะ ชนชั้น เชื้อชาติ ศาสนา ตลอดจนถึงในเรื่องภาระค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้เนื่องจากคนไข้ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพและไร้สัญชาติ ตลอดจนยังให้บริการด้านรถพยาบาลแก่หมู่บ้านที่อยู่ในระยะรัศมี 3 ถึง 100 กิโลเมตร เพื่อส่งผู้ป่วยเข้ามารับการรักษายังโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีระยะทางถึง 130 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้เนื่องจากทางโรงพยาบาลมีจำนวนยานพาหนะที่จำกัด จึงเป็นเหตุให้ผู้ป่วยหลายคนขาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และอีกหลายรายที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันการณ์
“ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงพิจารณาเห็นควรให้ความช่วยเหลือตามคำขอจากโรงพยาบาลปาย ในด้านงบประมาณเพื่อการจัดหายานพาหนะสำหรับผู้ป่วย ให้แก่ทางโรงพยาบาล จึงเป็นที่คาดหวังว่าคนไข้จะได้รับโอกาสในการรักษาที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจากความพร้อมของระบบการขนส่งและการ รักษาพยาบาล”กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่กล่าว
ด้านนายแพทย์สราวุธ สุพรรณพิทักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปาย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นชมที่ประเทศญี่ปุ่นได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของประชาชนในชนบทที่ห่างไกล ซึ่งแม้ว่าขณะนี้อำเภอปายจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักกันดีของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศก็ตาม แต่ประชาชนในพื้นที่ยังมีความยากลำบาก
ประกอบกับเริ่มมีผู้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่เพิ่มเติม รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวที่เริ่มมาพำนักในอำเภอปายเป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เมื่อเกิดการเจ็บป่วยทางโรงพยาบาลปายเองซึ่งมีจำนวนเตียงของผู้ป่วยเพียง 60 เตียงและเปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้งไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากพอ ประกอบกับบางครั้งผู้ป่วยอยู่ในอาการขั้นวิกฤต ที่จำเป็นต้องมีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือแม้แต่การส่งต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ก็ยากลำบากเมื่อมียานพาหนะทางการพยาบาลเพิ่มขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุด ที่จะสามารถลดปัญหาการส่งต่อผู้ป่วยที่ล่าช้าลงไปได้อย่างมาก