ศูนย์ข่าวศรีราชา- ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมกันแถลงข่าว หลังบุกเข้าไปช่วยเหลือ แรงงานต่างด้าวชาวพม่า 18 คน ที่ถูกกักขังบังคับใช้แรงงานในเรือประมง พร้อมจับกุม 3 ผู้ต้องหาแก๊งค้ามนุษย์ พยายามติดสินบนเงินสด 70,000 บาท และทองรูปพรรณอีก 3 บาท เลยถูกหลายข้อหา นอกจากจากค้ามนุษย์แล้วยังติดสินบนพ่วงไปอีก
เวลา 14.00 น.วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ บก.ตร.ภ.2 พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบช.กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.สานิตย์ มหถาวร รอง ผบก.รน ร่วมกันแถลงข่าว จับกุม นายมงคุณ บุญชูศรี อายุ 44 ปี ไต๋ก๋งเรือ น.ส.ตินเชย อายุ 47 ปี แรงงานต่างชาติชาวพม่า ที่ขอทำงานอย่างถูกกฎหมาย และเป็นเอเยนต์ นายหน้า เอาแรงงานต่างด้าวพม่ามาส่งให้เจ้าของเรือหัวละ 500 บาท และ นายอเบผ่า ยะผะ แรงงานต่างด้าวชาวพม่า ทั้งหมดในข้อหา ค้ามนุษย์ บังคับกักขังแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 18 คน เพื่อใช้แรงงานในเรือประมงหาปลาในทะเล
หลังได้รับแจ้ง จากมูลนิธิจากเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน จึงนำสนธิกำลังตำรวจประมาณ 50 นาย เข้าตรวจค้นใน เรือประมงสุวิทย์การประมง 55 ทีท่าเทียบเรือสุวิทย์การประมง ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบแรงงานต่างด้าวพม่า 6 คน ถูกขังบังคับใช้แรงงานอยู่ใต้ท้องเรือ จึงช่วยเหลือแรงงาน และจับกุม นายมงคุณ บุญชูศรี อายุ 44 ปี ไต๋ก๋งเรือ บ้านเดิมอยู่ที่ 112 ม.4 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ต่อมาตรวจค้นลำข้างกัน ชื่อ สุวิทย์การประมง 7 ช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวพม่า ถูกกักขังลักษณะเดียวกันอีก 6 คน
จากนั้นขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านเช่า เลขที่ 14/9 ม.2 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบ น.ส.ตินเชย อายุ 47 ปี แรงงานต่างชาติชาวพม่า ที่ขอทำงานอย่างถูกหมาย แต่พบแรงงานต่างด้าวชาวพม่าอีก 6 คน ถูกกักขังล็อคด้วยกุญแจ จึงทำการจับกุม น.ส.ตินเชย
แต่ขณะกำลังบันทึกจับกุม น.ส.ตินเชย นำเงินสด 70,000 บาท มาติดสินบน เพื่อแลกกับอิสรภาพ แล้วให้ นายอเบผ่า ยะผะ แรงงานต่างด้าวชาวพม่า นำสร้อยทองคำ 1 บาท และ แหวนทองคำ 2 บาท มาให้เพื่อติดสินบนตำรวจเพิ่มขึ้น
ตำรวจจึงทำการจับกุมทั้ง 3 ในข้อหา ค้ามนุษย์ หน่วงเหนี่ยว กักขัง บังคับใช้แรงงานเด็ก เอาคนลงเป็นทาส ติดสินบน แก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชิบด้วยหน้าที่ จากนั้น นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 18 คน ผลักดันเตรียมส่งกลับประเทศพม่าโดยเร็วที่สุด
พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะทำการสอบสวนเพื่อช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวที่ถูกบังคับกักขังใช้แรงงาน แบบทาส ค้ามนุษย์ เมื่อกม่ต้องการใช้แรงงานก็จะนำเข้าห้องกักขัง ล็อคกุญแจ ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน แต่เมื่อต้องการใช้ ก็จะใช้รถซาเล้งออกมาส่งขึ้นเรือที่สะพานปลา ตนจะสืบสวนไปจนถึงเจ้าของเรือหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีให้หมดไป เพราะขณะนี้พบว่า ในหลายพื้นที่ตามชายฝั่งทะเล มักจะก่อเหตุเช่นนี้ อีกเป็นจำนวน ดังนั้น ตนจะดำเนินจัดการปราบปรามให้สิ้นซากต่อไป
ส่วน พล.ต.ต.อนันต์ จเริญชาศรี รอง ผบช.ภ.2 ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อสืบสาวราวเรื่องไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีคนนั้น ส่วนเรื่องเรือประมงที่ใช้กระทำความผิด ทาง ตร.มีการอายัด เพื่อส่งดำเนินคดี และยึดไว้ ตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
