ศรีสะเกษ – “พล.ท.วีร์วลิต” แม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ชี้แจงนโยบายชายแดน หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ยืนยันกองทัพจะปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ เผยเตรียมเดินทางเยี่ยมบิ๊กทหารภูมิภาคเขมร กระชับความสัมพันธ์และคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะนายทหาร กองทัพภาคที่ 2 เดินทางมาชี้แจงนโยบาย พร้อมพบปะพูดคุย แนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 2 กับ คณะหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับทราบ
โดยมี นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายประวัติ รัฐิรมย์ นายชัช กิตตินพดล รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ และ ให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนการทำงานซึ่งกันและกัน ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 กับจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในการหารือกันในวันนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าว เข้าไปร่วมรับแต่อย่างใดโดยอ้างเป็นเรื่องความมั่นคง
พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังการประชุม ว่า ที่ จ.ศรีสะเกษ ในครั้งนี้ เนื่องจากตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เลยต้องการนำคณะ มาเยี่ยม นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ
นอกจากนั้น ยังเป็นการพูดคุยกันในเรื่องของปัญหาในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในส่วนของการสานต่อในการแก้ไขปัญหาในด้านชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ด้านเขาพระวิหารนั้น ก็ได้มีการปรึกษาและพูดคุยกัน ซึ่งจะมีการดำเนินการเพื่อทำให้พื้นที่ดังกล่าวเกิดความสงบให้ได้ แต่สิ่งใดที่เป็นเงื่อนไขที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของกองทัพ ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ โดยทางกองทัพจะปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ และในเรื่องเขตแดน นั้น มีคณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการอยู่แล้ว
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ ยังอยู่ในความสงบเรียบร้อย และทหารสามารถควบคุมได้ โดยได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้นำ ทางด้านกัมพูชา ในทุกๆ ระดับ ไม่ว่าจะเป็นในระดับพื้นที่ ระดับภูมิภาค โดยตนจะได้มีการเดินทางไปเยี่ยมทางผู้บังคับบัญชาในส่วนภูมิภาคทางฝั่งกัมพูชาเพื่อแนะนำตัว พัฒนาความสัมพันธ์ รวมทั้งจะได้มีการเชิญมาเยี่ยมฝ่ายไทยด้วย เพื่อเป็นการพูดคุยถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา และที่สำคัญที่สุด เพื่อเป็นการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดให้ลดลง และเกิดความสงบในที่สุด