จันทบุรี-กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำพลอยจังหวัดจันทบุรีกว่า 1,000 คน ปิดถนนประท้วง เรียกร้องให้โครงการรับจำนำและขายฝากอัญมณีดำเนินการที่จันทบุรี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนจันทบุรีและต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง
วันนี้(3 ต.ค.52 ) กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำพลอยจังหวัดจันทบุรีกว่า 1,000คนได้รวมตัวกันปิดถนนบริเวณถนนสายศรีจันทร์ ทางเข้าและออกของกลางเมืองจันทบุ รีทำให้ส่งผลกระทบมาสู่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากและทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องติดยาวเป็นกิโลเมตร
สาเหตุของการปิดถนนประท้วงเรียกร้องในครั้งนี้ เป็นผลพวงมาจากที่สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ได้ขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีช่วยจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์รับจำนำและขายฝากอัญมณีของจังหวัดจันทบุรี โดยทางจังหวัดเป็นเจ้าของโครงการมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานโครงการ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีเป็นเลขาธิการ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นกรรมการได้มีการดำเนินการตามขั้นตอน
มีวัตถุประสงค์ชัดเจนจะช่วยผู้ผลิตอัญมณีที่อยู่ในสภาพจะล่มสลายให้มีสภาพที่ดีขึ้นและจะดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน แต่ปรากฏว่าเมื่อโครงการนี้กำลังจะได้รับการอนุมัติงบประมาณ 500 ล้านบาทกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือ ทางนายกสมาคมได้สั่งการให้นายสุวัฒน์ ชัยกุล อุปนายกสมาคมไปลงนามความร่วมมือกับกลุ่มผู้ค้าอัญมณีกรุงเทพมหานคร
การกระทำดังกล่าวมีผลทำให้โครงการนี้ขาดความเป็นเอกภาพ คือ ต้องไปขึ้นอยู่กับกลุ่มของทางกรุงเทพมหานคร หากต้องมีการจำนำอัญมณี ก็ต้องไปกรุงเทพฯ ซึ่งในทางปฏิบัติก็เป็นไปได้ยาก และศูนย์นี้ต้องช่วยขายด้วยไม่ได้ มีหน้าที่เพียงแค่รับจำนำเท่านั้นเพื่อจะช่วยเหลือในด้านการตลาดด้วยก็จะทำไม่ได้ ซึ่งก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ใน
วันนี้จึงขอเรียกร้องให้ศูนย์รับจำนำและขายฝากอัญมณีนี้ ต้องตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีและบริหารจัดการโดยคนจันทบุรี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนจันทบุรีและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงอีกด้วยจึงได้รวมตัวกันเรียกร้องในครั้งนี้
วันนี้(3 ต.ค.52 ) กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำพลอยจังหวัดจันทบุรีกว่า 1,000คนได้รวมตัวกันปิดถนนบริเวณถนนสายศรีจันทร์ ทางเข้าและออกของกลางเมืองจันทบุ รีทำให้ส่งผลกระทบมาสู่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากและทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องติดยาวเป็นกิโลเมตร
สาเหตุของการปิดถนนประท้วงเรียกร้องในครั้งนี้ เป็นผลพวงมาจากที่สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ได้ขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีช่วยจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์รับจำนำและขายฝากอัญมณีของจังหวัดจันทบุรี โดยทางจังหวัดเป็นเจ้าของโครงการมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานโครงการ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีเป็นเลขาธิการ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นกรรมการได้มีการดำเนินการตามขั้นตอน
มีวัตถุประสงค์ชัดเจนจะช่วยผู้ผลิตอัญมณีที่อยู่ในสภาพจะล่มสลายให้มีสภาพที่ดีขึ้นและจะดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน แต่ปรากฏว่าเมื่อโครงการนี้กำลังจะได้รับการอนุมัติงบประมาณ 500 ล้านบาทกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือ ทางนายกสมาคมได้สั่งการให้นายสุวัฒน์ ชัยกุล อุปนายกสมาคมไปลงนามความร่วมมือกับกลุ่มผู้ค้าอัญมณีกรุงเทพมหานคร
การกระทำดังกล่าวมีผลทำให้โครงการนี้ขาดความเป็นเอกภาพ คือ ต้องไปขึ้นอยู่กับกลุ่มของทางกรุงเทพมหานคร หากต้องมีการจำนำอัญมณี ก็ต้องไปกรุงเทพฯ ซึ่งในทางปฏิบัติก็เป็นไปได้ยาก และศูนย์นี้ต้องช่วยขายด้วยไม่ได้ มีหน้าที่เพียงแค่รับจำนำเท่านั้นเพื่อจะช่วยเหลือในด้านการตลาดด้วยก็จะทำไม่ได้ ซึ่งก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ใน
วันนี้จึงขอเรียกร้องให้ศูนย์รับจำนำและขายฝากอัญมณีนี้ ต้องตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีและบริหารจัดการโดยคนจันทบุรี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนจันทบุรีและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงอีกด้วยจึงได้รวมตัวกันเรียกร้องในครั้งนี้