เชียงราย – เสื้อแดงเชียงรายร้าวลึก ยกพวกบุกกันถึงหน้าบ้าน กรอกหูคนสีเดียวกันให้แยกวงออกจากกลุ่ม 24 มิถุนาฯ แถมขู่ฟ้องกันวุ่นเรื่องเงินแสน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงในเชียงรายได้เกิดปัญหาความขัดแย้งกันอย่างหนัก ถึงขั้นที่อดีตแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย นำโดยนายออด สุขตะโก และ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม ได้พาพรรคพวกถอนตัวออกจากกลุ่มไปอยู่กับชมรมคนรักทักษิณซึ่งมีนางมติ แซ่อั้ง เจ้าของร้านเนื้อวัวรสเยี่ยม ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชอบแวะไปรับประทานเป็นประธานแทน
ทั้งนี้ ให้เหตุผลว่า น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ หรือบุ๋ม แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย ไม่เคารพผู้ใหญ่ การเงินภายในกลุ่มไม่โปร่งใส และไม่ประกอบกิจกรรมทางการเมืองเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการไม่สนับสนุนให้ไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ปฏิวัติครบ 3 ปีนั้น
ปรากฏว่า น.ส.จิรนันท์ และแกนนำกลุ่มอีกจำนวนหนึ่งได้ออกมาแสดงจุดยืนตอบโต้ข้อมูลของนายออด และ น.ส.เกษนีย์ ว่าไม่เป็นความจริง โดยร่วมกันจัดรายการพิเศษทางสถานีวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตย เลขที่ 226 หมู่บ้านจัดสรรลานทอง หมู่ 4 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.จิรนันท์
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังจัดรายการ เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ถูกอีกฝ่ายหนึ่งกล่าวหานั้น ปรากฏว่า นายออด และ น.ส.เกษนีย์ ได้พาคนเสื้อแดงอีกกลุ่มหนึ่งไปอยู่ที่ถนนบริเวณหน้าสถานีของ น.ส.จิรนันท์ และคอยชี้แจงข้อมูลกับสมาชิกคนเสื้อแดงหลายคนที่เดินทางเข้าออกสถานีด้วย แต่ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทใดๆ เกิดขึ้น แต่ก็มีการแจ้งไปยังตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.เมืองเชียงราย ให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว
เมื่อ น.ส.จิรนันท์ และพวกได้จัดรายการชี้แจงเสร็จ กลุ่มของนายออด และ น.ส.เกษนีย์ ก็สลายตัวไป โดยระบุว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในเร็วๆ นี้แน่นอน
น.ส.จิรนันท์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสมาชิกบางคนของกลุ่มขอถอนตัวออกไปและไปแถลงข่าวตลบหลังตนนั้นทำให้ตนได้รับความเสียหาย และกระทบไปถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้ดำเนินโครงการแก้จนแบบถาวร ซึ่งให้การสนับสนุนกลุ่มด้วย
ตนยืนยันว่าข้อมูลที่กลุ่มนายออด และ น.ส.เกษนีย์ นำไปแถลงนั้นไม่เป็นความจริง โดยกรณีของการไม่เดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากทราบว่ารัฐบาลจะใช้ความรุนแรงจึงเกรงว่าจะพาคนไปเจ็บไปตาย กลับมาไม่ครบจนเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต รวมทั้งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่มีกิจกรรมอื่นๆ มากมาย ขณะเดียวกันตนก็ไม่ถึงกับไปบังคับไม่ให้คนเดินทางไปร่วมชุมนุม
น.ส.จิรนันท์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องงบประมาณของกลุ่มก็เป็นไปอย่างโปร่งใส เช่น การรับรองค่าใช้จ่ายในการจัดงานระดมทุนสร้างห้องส่งสถานีวิทยุใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นเงิน 179,588.25 บาท ปรากฏว่า น.ส.เกษนีย์ ก็เป็นคนลงนามหรือเซ็นรับรองด้วยเป็นคนแรกด้วยซ้ำ, การจัดงานผ้าป่าและงานแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับเงินจำนวน 16,000 บาท ค่าบริจาคอื่นๆ อีกเล็กน้อย ท้ายที่สุด พล.อ.ชัยสิทธิ์ บริจาคเงินให้อีกจำนวน 100,000 บาท ทำให้กลุ่มเรามีเงินจำนวนประมาณ 270,000 บาท เมื่อหักไปซื้อเสาสถานีวิทยุชุมชนใหม่และอุปกรณ์ประกอบรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเสียจำนวน 78,104 บาท ทำให้เราเหลือเงินอยู่ในบัญชีขณะนี้จำนวนประมาณ 200,100 บาท ซึ่งงบประมาณต่างๆ เหล่านี้หากว่าคนที่ถอนตัวออกไปสงสัยก็สอบถามข้อมูลในที่ประชุมได้แต่เหตุใดจึงมาแถลงข่าวตลบหลังกันเช่นนี้
น.ส.จิรนันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับการกล่าวหาว่ากลุ่มไปดำเนินโครงการแก้จนอย่างถาวรของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ด้วยการขายปุ๋ยนั้น ยอมรับว่าได้ดำเนินการจริง เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เพราะเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้ถึง 1-2 เท่า และเราเห็นว่าการต่อสู้ของเราไม่ได้มีเฉพาะการไปชุมนุมกรุงเทพฯ
แต่หมายถึงการช่วยเหลือประชาชนด้านความยากจนด้วย แต่ตนไม่ได้บังคับใครไปขายปุ๋ยเหมือนกับที่ถูกกล่าวหา มีเพียงครั้งหนึ่งเคยโทรศัพท์ไปหานายออดว่า เหตุใดไม่ดูแลชาวบ้าน ก็ถูกกล่าวหาว่าไม่มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่
แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย ยังได้นำรายละเอียดโครงการจัดอบรมโครงการแก้จนอย่างถาวรในพื้นที่ อ.แม่สรวย เมื่อกลางเดือน ก.ค.52 ที่ผ่านมาออกมาแสดงให้เห็นว่านายออด เป็นคนรับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ โดยเบิกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไปกว่า 27,255 บาท เป็นค่าคนเข้าร่วมการอบรมถึง 500 คน แต่ความเป็นจริงมีคนเพียง 100 กว่าคนเท่านั้น
ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นั้นตนยืนยันว่านายสมชาย ไพบูลย์ ผู้ประสานงานกับคนเสื้อแดงที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตนก็บอกไปตามความจริง เช่น ค่าน้ำมันไม่เกิน 10,000 บาท ฯลฯ เป็นต้น ปรากฏว่า วันนั้นนายออด พาคนเดินทางไปและมีงบประมาณอยู่แล้ว 20,000 บาท ตนจึงขอให้จัดสรรให้กลุ่มนี้เพียง 5,000 บาทและขอหักเข้ากลุ่มเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆ เสียครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 บาท จึงทำให้เกิดความไม่พอใจกันขึ้นและกล่าวหาตนในที่สุด ซึ่งข้อเท็จจริงใครสงสัยก็โทรศัพท์ไปหานายสมชาย เองได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า น.ส.จิรนันท์ ได้ให้แกนนำคนอื่นๆ ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยทางรายการยืนยันเกี่ยวกับการใช้จ่ายและงบประมาณต่างๆ ของกลุ่มด้วย ก่อนที่จะสรุปว่า การแถลงข่าวของกลุ่มที่แยกตัวออกไปทำให้ตนเองได้รับความเสียหายและกระทบไปถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ดังนั้นจะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะข่าวที่ออกไปคือ www.manager.co.th ซึ่งเป็นข่าวออนไลน์กระจายไปทั่วโลกทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
“บุ๋มไม่ได้บังคับใครไปขายปุ๋ย ถ้าบุ๋มบังคับขอให้บุ๋มฉิบหายและตายโหง แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ขอให้คนที่กล่าวรับไปเถอะ เรื่องนี้ถือว่าทำกันแรงเกินไปแล้ว” ช่วงหนึ่งที่ น.ส.จิรนันท์ กล่าวในรายการก่อนระบุด้วยว่า คนที่แถลงข่าวไม่ใช่คนที่มาจากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย ทั้งหมด แต่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้จึงไม่มีผลต่อการขับเคลื่อนของกลุ่มในอนาคต
ด้าน นายออด สุขตะโก แกนนำที่แยกตัวออกไปและกล่อมพรรคพวกที่หน้าบ้านของ น.ส.จิรนันท์ ให้แยกย้ายกันกลับไปก่อน กล่าวว่า ข้อมูลที่จัดกันทางรายการวิทยุนั้นตนรับฟังโดยตลอดแต่เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะไม่มีข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงต้องดูว่ามีการกล่าวพาดพิงให้ได้รับความเสียหายหรือไม่ รวมทั้งจะปล่อยไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และใครทำกรรมใดไว้กรรมนั้นจะต้องตอบสนองแน่นอน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงในเชียงรายได้เกิดปัญหาความขัดแย้งกันอย่างหนัก ถึงขั้นที่อดีตแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย นำโดยนายออด สุขตะโก และ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม ได้พาพรรคพวกถอนตัวออกจากกลุ่มไปอยู่กับชมรมคนรักทักษิณซึ่งมีนางมติ แซ่อั้ง เจ้าของร้านเนื้อวัวรสเยี่ยม ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชอบแวะไปรับประทานเป็นประธานแทน
ทั้งนี้ ให้เหตุผลว่า น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ หรือบุ๋ม แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย ไม่เคารพผู้ใหญ่ การเงินภายในกลุ่มไม่โปร่งใส และไม่ประกอบกิจกรรมทางการเมืองเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการไม่สนับสนุนให้ไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ปฏิวัติครบ 3 ปีนั้น
ปรากฏว่า น.ส.จิรนันท์ และแกนนำกลุ่มอีกจำนวนหนึ่งได้ออกมาแสดงจุดยืนตอบโต้ข้อมูลของนายออด และ น.ส.เกษนีย์ ว่าไม่เป็นความจริง โดยร่วมกันจัดรายการพิเศษทางสถานีวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตย เลขที่ 226 หมู่บ้านจัดสรรลานทอง หมู่ 4 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.จิรนันท์
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังจัดรายการ เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ถูกอีกฝ่ายหนึ่งกล่าวหานั้น ปรากฏว่า นายออด และ น.ส.เกษนีย์ ได้พาคนเสื้อแดงอีกกลุ่มหนึ่งไปอยู่ที่ถนนบริเวณหน้าสถานีของ น.ส.จิรนันท์ และคอยชี้แจงข้อมูลกับสมาชิกคนเสื้อแดงหลายคนที่เดินทางเข้าออกสถานีด้วย แต่ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทใดๆ เกิดขึ้น แต่ก็มีการแจ้งไปยังตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.เมืองเชียงราย ให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว
เมื่อ น.ส.จิรนันท์ และพวกได้จัดรายการชี้แจงเสร็จ กลุ่มของนายออด และ น.ส.เกษนีย์ ก็สลายตัวไป โดยระบุว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในเร็วๆ นี้แน่นอน
น.ส.จิรนันท์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสมาชิกบางคนของกลุ่มขอถอนตัวออกไปและไปแถลงข่าวตลบหลังตนนั้นทำให้ตนได้รับความเสียหาย และกระทบไปถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้ดำเนินโครงการแก้จนแบบถาวร ซึ่งให้การสนับสนุนกลุ่มด้วย
ตนยืนยันว่าข้อมูลที่กลุ่มนายออด และ น.ส.เกษนีย์ นำไปแถลงนั้นไม่เป็นความจริง โดยกรณีของการไม่เดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากทราบว่ารัฐบาลจะใช้ความรุนแรงจึงเกรงว่าจะพาคนไปเจ็บไปตาย กลับมาไม่ครบจนเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต รวมทั้งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่มีกิจกรรมอื่นๆ มากมาย ขณะเดียวกันตนก็ไม่ถึงกับไปบังคับไม่ให้คนเดินทางไปร่วมชุมนุม
น.ส.จิรนันท์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องงบประมาณของกลุ่มก็เป็นไปอย่างโปร่งใส เช่น การรับรองค่าใช้จ่ายในการจัดงานระดมทุนสร้างห้องส่งสถานีวิทยุใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นเงิน 179,588.25 บาท ปรากฏว่า น.ส.เกษนีย์ ก็เป็นคนลงนามหรือเซ็นรับรองด้วยเป็นคนแรกด้วยซ้ำ, การจัดงานผ้าป่าและงานแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับเงินจำนวน 16,000 บาท ค่าบริจาคอื่นๆ อีกเล็กน้อย ท้ายที่สุด พล.อ.ชัยสิทธิ์ บริจาคเงินให้อีกจำนวน 100,000 บาท ทำให้กลุ่มเรามีเงินจำนวนประมาณ 270,000 บาท เมื่อหักไปซื้อเสาสถานีวิทยุชุมชนใหม่และอุปกรณ์ประกอบรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเสียจำนวน 78,104 บาท ทำให้เราเหลือเงินอยู่ในบัญชีขณะนี้จำนวนประมาณ 200,100 บาท ซึ่งงบประมาณต่างๆ เหล่านี้หากว่าคนที่ถอนตัวออกไปสงสัยก็สอบถามข้อมูลในที่ประชุมได้แต่เหตุใดจึงมาแถลงข่าวตลบหลังกันเช่นนี้
น.ส.จิรนันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับการกล่าวหาว่ากลุ่มไปดำเนินโครงการแก้จนอย่างถาวรของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ด้วยการขายปุ๋ยนั้น ยอมรับว่าได้ดำเนินการจริง เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เพราะเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้ถึง 1-2 เท่า และเราเห็นว่าการต่อสู้ของเราไม่ได้มีเฉพาะการไปชุมนุมกรุงเทพฯ
แต่หมายถึงการช่วยเหลือประชาชนด้านความยากจนด้วย แต่ตนไม่ได้บังคับใครไปขายปุ๋ยเหมือนกับที่ถูกกล่าวหา มีเพียงครั้งหนึ่งเคยโทรศัพท์ไปหานายออดว่า เหตุใดไม่ดูแลชาวบ้าน ก็ถูกกล่าวหาว่าไม่มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่
แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย ยังได้นำรายละเอียดโครงการจัดอบรมโครงการแก้จนอย่างถาวรในพื้นที่ อ.แม่สรวย เมื่อกลางเดือน ก.ค.52 ที่ผ่านมาออกมาแสดงให้เห็นว่านายออด เป็นคนรับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ โดยเบิกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไปกว่า 27,255 บาท เป็นค่าคนเข้าร่วมการอบรมถึง 500 คน แต่ความเป็นจริงมีคนเพียง 100 กว่าคนเท่านั้น
ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นั้นตนยืนยันว่านายสมชาย ไพบูลย์ ผู้ประสานงานกับคนเสื้อแดงที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตนก็บอกไปตามความจริง เช่น ค่าน้ำมันไม่เกิน 10,000 บาท ฯลฯ เป็นต้น ปรากฏว่า วันนั้นนายออด พาคนเดินทางไปและมีงบประมาณอยู่แล้ว 20,000 บาท ตนจึงขอให้จัดสรรให้กลุ่มนี้เพียง 5,000 บาทและขอหักเข้ากลุ่มเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆ เสียครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 บาท จึงทำให้เกิดความไม่พอใจกันขึ้นและกล่าวหาตนในที่สุด ซึ่งข้อเท็จจริงใครสงสัยก็โทรศัพท์ไปหานายสมชาย เองได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า น.ส.จิรนันท์ ได้ให้แกนนำคนอื่นๆ ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยทางรายการยืนยันเกี่ยวกับการใช้จ่ายและงบประมาณต่างๆ ของกลุ่มด้วย ก่อนที่จะสรุปว่า การแถลงข่าวของกลุ่มที่แยกตัวออกไปทำให้ตนเองได้รับความเสียหายและกระทบไปถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ดังนั้นจะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะข่าวที่ออกไปคือ www.manager.co.th ซึ่งเป็นข่าวออนไลน์กระจายไปทั่วโลกทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
“บุ๋มไม่ได้บังคับใครไปขายปุ๋ย ถ้าบุ๋มบังคับขอให้บุ๋มฉิบหายและตายโหง แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ขอให้คนที่กล่าวรับไปเถอะ เรื่องนี้ถือว่าทำกันแรงเกินไปแล้ว” ช่วงหนึ่งที่ น.ส.จิรนันท์ กล่าวในรายการก่อนระบุด้วยว่า คนที่แถลงข่าวไม่ใช่คนที่มาจากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย ทั้งหมด แต่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้จึงไม่มีผลต่อการขับเคลื่อนของกลุ่มในอนาคต
ด้าน นายออด สุขตะโก แกนนำที่แยกตัวออกไปและกล่อมพรรคพวกที่หน้าบ้านของ น.ส.จิรนันท์ ให้แยกย้ายกันกลับไปก่อน กล่าวว่า ข้อมูลที่จัดกันทางรายการวิทยุนั้นตนรับฟังโดยตลอดแต่เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะไม่มีข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงต้องดูว่ามีการกล่าวพาดพิงให้ได้รับความเสียหายหรือไม่ รวมทั้งจะปล่อยไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และใครทำกรรมใดไว้กรรมนั้นจะต้องตอบสนองแน่นอน
