xs
xsm
sm
md
lg

“ยายใฮ” ดีใจแต่ไม่เชื่อ! ได้รับค่าชดเชยจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางไฮ ขันจันทา
อุบลราชธานี - “ยายใฮ ขันจันทา” หญิงชราเจ้าของตำนานทุบเขื่อนห้วยละห้า อุบลราชธานี ทำให้น้ำท่วมที่นามานานกว่า 27 ปี แถลงข่าวยินดีกับความกล้าหาญของรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ฟังความเดือดร้อนคนจน แต่ไม่เชื่อสนิทใจจนกว่าได้รับค่าชดเชย พร้อมเรียกร้องเร่งช่วยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบปัญหาอื่นด้วย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (23 ก.ย.) นางใฮ ขันจันทา และกลุ่มสมัชชาคนจน จ.อุบลราชธานี แถลงข่าวที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กรณี ครม.มีมติจ่ายเงินค่าชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนห้วยละห้า อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เมื่อ 32 ปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มสมัชชาคนจน ระบุว่า มติ ครม.ดังกล่าวถือเป็นความกล้าหาญของรัฐบาล ซึ่งรับฟังปัญหาของคนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐที่ผ่านมา จึงเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลมีความตั้งใจจะแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน

แต่เขื่อนห้วยละห้า เป็นเพียงปัญหาหนึ่งใน 16 ปัญหาของกลุ่มสมัชชาคนจน รัฐบาลจำเป็นต้องพิสูจน์ความจริงใจในกรณีปัญหาอื่นของกลุ่มสมัชชาคนจน ทั้งกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล เขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา รวมทั้งเขื่อนโป่งขุนเพชร ซึ่งไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาอยู่ขณะนี้

นายสมเกียรติ พ้นภัย แกนนำชาวบ้านปัญหาเขื่อนปากมูล ระบุว่า หวังเป็นอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลต้องการสร้างภาพดีในสายตาชาวบ้าน ควรรีบจ่ายเงินค่าชดเชยตามมติ ครม.เร็วที่สุด เพราะมีตัวอย่างจากกรณีเขื่อนสิรินธรกว่าชาวบ้านจะได้รับค่าชดเชยมีการนำเรื่องเข้า-ออก ครม.กว่า 20 ครั้ง จึงหวังว่ากรณี นางใฮ ขันจันทา จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก พร้อมเรียกร้องให้นำค่าชดเชยมาจ่ายที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

ด้าน นางผา กองธรรม แกนนำชาวบ้านเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สำหรับปัญหาของชาวบ้านเขื่อนราษีไศลยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ชาวบ้านจำนวน 2,500 คน ที่ได้รับผลกระทบรวมตัวเรียกร้องความเป็นธรรมที่สันเขื่อนราษีไศล ถึงวันนี้เป็นเวลารวม 109 วันแล้ว จึงขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิของคนจนและยุติโครงการสร้างเขื่อนที่มีผลกระทบต่อธรรมชาติและมนุษย์ เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย

สำหรับ นางใฮ ขันจันทา ซึ่งได้รับเงินค่าชดเชย กล่าวว่า แม้เงินที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับการล่มสลายของครอบครัว แต่ชื่นชมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีความกล้าหาญยอมรับความจริงที่เกิดกับคนจน ซึ่งได้รับผลจากโครงการพัฒนาของรัฐ โดยแตกต่างจากรัฐบาลอื่นๆ ซึ่งไม่เคยรับฟังเสียงคนจนมาก่อน

แต่จากบทเรียนที่ร่วมต่อสู้กับกลุ่มสมัชชาคนจนมากว่า 10 ปี ทำให้นางใฮ ยังไม่เชื่อมั่นจะได้รับการชดเชยจริง จนกว่ารัฐบาลระบุวันเวลาจ่ายค่าชดเชยที่แน่ชัด ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลรีบดำเนินการโดยเร็ว


นอกจากนี้ นางใฮ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ พิจารณาช่วยเหลือชาวบ้านในกรณีปัญหาที่เหลืออยู่ของสมัชชาคนจนทั้งหมดด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว นางเพชร ขันจันทา ลูกสาวคนสุดท้องของนางใฮ ที่ร่วมแถลงข่าวมีอาการน้ำตาคล้อเบ้า เมื่อกล่าวถึงการช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะถ้าที่ดินใช้ทำกินของครอบครัวไม่ถูกยึดไปสร้างเขื่อน นางเพชร และพี่น้อง คงมีการศึกษาและมีชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าทุกวันนี้

แต่หลังการสร้างเขื่อนครอบครัว “ขันจันทา” ที่เคยร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้านก็อยู่ในสภาพยากจน พี่น้องแยกย้ายไปทำงานในเมือง ส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนนางเพชรมีโอกาสศึกษาแค่ชั้นประถม 6 ก็ไปเป็นคนรับใช้ในกรุงเทพฯ

กำลังโหลดความคิดเห็น