ศูนย์ข่าวภูมิภาค- คณะอนุกรรมการพัฒนา อปท.เครือข่ายวางกรอบสรุปข้อมูลแผนยกฐานะ อปท.พิเศษ “นครแม่สอด-เกาะสมุย” รองเลขาสถาบันพระปกเกล้า หนุนเต็มที่ให้สภาพัฒน์เป็น “พี่เลี้ยง” ด้าน “อภิรักษ์” เตรียมลงพื้นที่ชายแดนแม่สอดก่อนเดินหน้าร่างกฎหมายรองรับ
วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำโดย นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ในฐานะคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อปท.ส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาลเมืองแม่สอด และเมืองเกาะสมุย ได้เข้าร่วมประชุม คณะอนุกรรมการพัฒนารูปแบบการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลักษณะเครือข่าย หรือกลุ่มพื้นที่และรูปแบบการจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการในพื้นที่พิเศษ ที่ห้องประชุม 101 ชั้น 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯเป็นประธาน เพื่อเตรียมการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” และ “เมืองเกาะสมุย”
ทั้งนี้ เป็นการประชุมชี้แจงหลักการ-เหตุผล และผลที่จะได้รับจากการยกฐานะเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ตามนโยบายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ในการประชุมครั้งนี้ยังมีคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ภาครัฐจากกรม กระทรวงต่างๆ และเอกชน จากสภาอุตสาหกรรมและหอการค้า รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เข้าร่วมประชุม กว่า 80 คน
รศ.วุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะประธานคณะทำงานในคณะอนุกรรมการฯ เพื่อเตรียมการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” และ “เมืองเกาะสมุย” กล่าวว่า การยกฐานะท้องถิ่นพิเศษ ควรเร่งดำเนินการ โดยให้สภาพัฒน์เป็นพี่เลี้ยง และขอให้มีความชัดเจนในการบริหารจัดการรูปแบบสาธารณะ เพราะแม่สอดมีความพร้อมทั้งพื้นที่และศักยภาพของเมือง
นายอภิรักษ์กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ นครแม่สอด-เกาะสมุย และการออก พ.ร.บ. โดยกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน และศึกษาระบบแรงงานต่างด้าว-การค้าชายแดน ด้วยการออกแบบโครงสร้าง ซึ่งจำเป็นต้องเร่งกำหนด รองรับการเป็นกลุ่มประชาคมอาเซียน เตรียมตัวให้แม่สอดนำร่อง เพราะเป็นเมืองการค้าชายแดนเส้นทางอีสเวสต์อิโคโนมิกคอริดอร์และประตูการค้าชายแดน พัฒนาด้านการเกษตร เกษตรอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม-และอื่นๆ
“ผมอยากกำหนดกรอบเวลา ในการยกฐานะท้องถิ่นพิเศษแม่สอด อย่างรวดเร็ว เสนอ ครม.และสภาผู้แทนราษฎร โดยออกแบบข้อกฎหมายให้ดีขึ้นเพื่อสอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10-11 โดยใช้เวลาอีกประมาณ 14 วัน เพื่อให้ได้เป้าหมายที่ชัดเจนก่อนเสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยผมจะลงพื้นที่ไปแม่สอดเพื่อศึกษาข้อมูลก่อนที่จะออก พ.ร.บ.” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าว
นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด กล่าวในที่ประชุมว่า แม่สอดต้องมีการพัฒนาให้เป็นเมืองท้องถิ่นพิเศษ “นครแม่สอด” จากปัจจัยความพร้อมด้านต่างๆ เนื่องจากเป็นเมืองชายแดน ที่มีการค้าชายแดนที่มียอดส่งออกมากกว่าปีละ 23,000-24,000 ล้านบาท จนอาจจะถึง 100,000 ล้านบาท
ผู้แทนจากสภาพัฒน์กล่าวว่า ต้องมีการพัฒนาให้แม่สอดมีศักยภาพทางเศรษฐกิจเพื่อรองรับการที่พม่าได้พัฒนาเมียวดีเป็นเขตเศรษฐกิจเมียวดี (Myawaddy Trade Zone) และขอเสนอให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อป้องกันการที่ประเทศอื่นๆ เข้าไปแย่งพื้นที่การค้าและเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นและกรอบแนวคิด ในการกำหนดยุทธศาสตร์ ทั้งการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค คุณภาพชีวิต ปัญหาด้านความมั่นคง แรงงานต่างด้าว การพัฒนาการค้าชายแดนโดยเพิ่มมูลค่าการค้า รวมทั้งการท่องเที่ยว