ตราด - ประธานกรรมการส่งเสริมเศรษฐกิจฯ หอฯไทยมั่นใจ “ไทยเข้มแข็ง” กระตุ้น ศก.โลก ระบุ กลุ่มเกษตรท่องเที่ยวได้รับประโยชน์สูงสุด ขณะภาคตะวันออกชลบุรีได้ประโยชน์
วันนี้ (21 ก.ย.) ภายหลังการบรรยายพิเศษ ของ นายนิยม ไวยรัชพานิช ประธานคณะกรรมการส่งเสริม เศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน หอการค้าไทย ที่หอการค้า จ.ตราด จัดการอบรมผู้ประกอบการค้าชายแดนแล้ว นายนิยม กล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคเกษตรของไทยใช้เงิน สูงถึง 400,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคเกษตรของไทยให้เติบโตขึ้น เช่น โครงการประกัน ราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าวซึ่งชาวนาจะได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้เต็มที่ เพราะราคาข้าวจะถึงยกระดับขึ้นมา จนมีกำไรที่เป็นที่พอใจ ทั้งนี้ ชาวนาในภาคต่าง ๆ จะได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้เต็มที่
“เงินที่มีมากกว่า 400,000 ล้านบาท จะกระจายลงสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เดือนสุดท้าย ให้เติบโตขึ้นเป็นตัวเลขบวก ซึ่งแน่นอนว่า ในผู้ประกอบการธุรกิจจะมีผลกำไรเป็นที่น่าพอใจไปด้วย ส่วนเรื่อง ธุรกิจท่องเที่ยวก็เป็น 1 ในโครงการไทยเข้มแข็งกันก็จะเติบโตเช่นกัน แม้ในช่วงต้นปีจะประสบปัญหาเรื่องโรค ไข้หวัด 2009 แต่สถานการณ์จะดีขึ้นตามที่รัฐบาลได้ใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจไป”
นายนิยม กล่าวว่า ในส่วนของภาคตะวันออกจะได้ประโยชน์จากนโยบายไทยเข้มแข็งไม่น้อยเช่นกัน ทั้ง ภาคเกษตรกรรมในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา, จ.นครนายก ที่มีพืชทางเกษตรกรรมมาก ขณะที่ อ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด จะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยมีพัทยา จ.ชลบุรี เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว แล้วจะขายสู่ภาคตะวันออกทั้งหมด
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมี 2 ช่วงในช่วงแรกจะมีงบประมาณ 400,000 ล้านบาท และในช่วงที่ 2 จะมีงบประมาณอีกก้อนหนึ่งจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้อย่างมั่นคง เพราะงบประมาณทั้งหมดได้กระจายลงสู่ทุกพื้นที่ และทุกกลุ่มได้รับผลอย่างถ้วน หน้า เฉพาะในระยะสั้นๆ 3 เดือน ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 เศรษฐกิจไทยในภาพรวมจะเติบโตขึ้นชัดเจนอย่างแน่นอน