กาฬสินธุ์ค้นพบพลังงานทดแทนหนุนใช้แก๊สชีวภาพแทนแอลพีจี

กาฬสินธุ์ -จังหวัดกาฬสินธุ์ ค้นพบการใช้พลังงานทดแทน ที่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง หรือแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) โดยการใช้ Bio Gas หรือแก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ ติดตั้งด้วยอุปกรณ์ทรงคุณภาพ ปลอดภัย อายุใช้งานคงทน และประหยัดรายจ่ายได้ถึง 100%

นายกรัณย์กร วัฒนะพิทักษ์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า นับวันปริมาณการใช้พลังงานจะเพิ่มสูงขึ้น ตามอัตราจำนวนประชากร สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม ที่มีการนำเครื่องจักร เครื่องยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงในการประกอบกิจการ โดยพลังงานที่ได้ล้วนมาจากธรรมชาติ ที่อาจจะหมดในอนาคตอันใกล้ หากไม่มีการอนุรักษ์หวงแหนและเร่งหาพลังงานจากแหล่งอื่นมาทดแทน

สำนักงานพลังงานจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด รณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทางเลือก โดยเริ่มจากครัวเรือน ก่อนขยายผลสู่ชุมชน โดยใช้ไบโอแก๊สหรือแก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ ทดแทนการใช้แก๊สแอลพีจี ที่ประหยัดพลังงานได้ถึง 100% จากที่ต้องเสียค่าบริการลิตรละ 12.50 บาทหรือเดือนละ 350 บาท หรือปีละประมาณ 4 พันบาท ขณะที่หากนำเงินจำนวนดังกล่าว มาติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ที่ลงทุนครั้งเดียวเพียง 4 พันบาท ก็สามารถที่จะใช้งานได้นานถึง 5 ปี

ทั้งนี้ หากเฉลี่ยตัวเลขออกมาจะเห็นว่าในห้วงระยะเวลาเท่ากัน จะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้กว่า 2 หมื่นบาท หรือหากขยายผลออกไปหลายครัวเรือน หลายชุมชน ก็สามารถที่จะประหยัดทั้งรายจ่ายและเชื้อเพลิงเป็นมูลค่ามหาศาล

นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวเสริมว่า ได้จัดอบรมผู้นำชุมชนและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทั่วจังหวัด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้ก้าวไปในทิศทางที่ต้องการ ที่กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้ คือ นำแกนนำเกษตรกรแต่ละตำบลเป็นต้นแบบในการดำเนินการ โดยการนำมูลสัตว์เลี้ยง เช่น มูลโค มูลกระบือ หรือมูลหมู มาแปรสภาพเป็นเชื้อเพลิง หรือแก๊สในครัวเรือน โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ออกแบบโดยวิศวกรที่ชำนาญการ เน้นการประหยัด หากแต่ให้พลังงานความร้อนสูง เกินคุ้ม อายุการใช้งานคงทน นานปี

การติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานแบบประหยัด หรือการใช้แก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ผลคุ้มค่า เพราะต้นทุนต่ำ มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้คือมูลสัตว์ฯเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วและหาได้ง่าย การติดตั้งระบบและการใช้งานสะดวก โดยขุดหลุมกว้าง ประมาณ 1.70 ม.ยาว 3.80 ม.ลึก 80 ซม.เติมลมในถุงแก๊สให้พองขึ้น แล้วปิดท่อทางออกทุกด้าน ยกถุงแก๊สมาจัดวางในหลุมที่เตรียมไว้ให้พอดี ตรวจสอบให้ระดับของบ่อเติมสูงกว่าท่อล้น 10-15 ซม.เทปูนซีเมนต์ยึดท่อพีวีซี ทั้งท่อเข้าและท่อล้นให้แน่นหนา เติมน้ำเข้าถุงเป็นแก๊สผ่านทางท่อแก๊สให้น้ำท่วมปลายท่อทั้งสองด้านเล็กน้อย รอให้ปูนแห้งแล้วเริ่มจึงเริ่มเติมมูลสัตว์

นายประหยัด ระบุว่า การเติมมูลสัตว์ ให้นำมูลสัตว์สดเทลงในวงบ่อทางเข้า เอามูลส่วนหนึ่งปิดปากท่อก่อน แล้วละเลงมูลด้วยน้ำในส่วนที่เหลือให้เหลว แล้วใช้ไม้เปิดปากท่อที่อุดไว้ไล่มูลให้ลงไปในถุงแก๊สให้หมด ควรเติมทุกวันหรือวันเว้นวัน ขึ้นอยู่กับการใช้ในแต่ละวัน เมื่อเติมมูลสัตว์ได้ประมาณ 20-30 วัน จึงเริ่มทดลองจุดไฟ สังเกตว่าแก๊สติด ถ้าจุดแล้วดับแสดงว่ามีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปนอยู่ ควรเปิดวาล์วไล่ออกทีละน้อย จนกว่าเปลวไฟจะไม่ดับ

ในกรณีมีรูรั่ว ให้ใช้กาวอีแว๊ปทาและปิดด้วยพลาสติกพีวีซี ที่สำคัญอีกประการคือควรติดตั้งในที่โล่งแจ้ง ไม่มีกิ่งไม้ที่อาจหล่นมาใส่ถุงก๊าซ ที่จะทำให้รั่วได้ และควรหมั่นตรวจเช็ครอยรั่วซึมอย่างสม่ำเสมอ”

ด้าน นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนการประหยัดพลังงาน โดยใช้ไบโอแก๊ส หรือแก๊สชีวภาพ เป็นพลังงานทางเลือกใหม่ ที่สำนักงานพลังงานจังหวัดฯและปศุสัตว์จังหวัดฯได้จุดประกายดังกล่าว จากการติดตามประเมินผล ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดียิ่ง

ขณะนี้ทั่วจังหวัดได้ติดตั้งแล้วจำนวน 150 จุด ผลดีที่นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง จากที่เคยใช้แก๊สแอลพีจีและเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ ด้วยการนำมูลสดมาเข้าสู่กระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพ ยังช่วยลดมลพิษ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค ได้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่จะทำให้ทุกครัวเรือน ลดรายจ่าย สอดคล้องแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำได้เป็นอย่างดี