เชียงราย - จับอดีตรอง ผกก.สันติบาล “พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์” พร้อมพวกยัดห้องขัง ฐานซุกอาวุธสารพัดชนิดในรถเก๋ง คาชายแดนเชียงแสน ตรงข้ามบ่อนใหญ่นักการเมืองไทยในฝั่งพม่า รวมทั้งขัดขืนการจับกุม ขู่ฟ้อง ผกก.สภ.เชียงแสน อ้างถูกผลักอก
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (13 ก.ย.) เวลา 01.00 น. พ.ต.ท.สุธรรม ชาติอาษา ผกก.สภ.เชียงแสน ได้รับแจ้งจากตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 327 ซึ่งประจำการอยู่ที่จุดผ่อนปรนบ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ตรงสามเหลี่ยมทองคำชายแดนไทย-พม่า-สปป.ลาวว่า พบชายฉกรรจ์จำนวน 8 คน ท่าทางมีพิรุธอยู่บริเวณจุดผ่อนปรน และมีพฤติกรรมเข้าไปข่มขู่พนักงานโรงแรมโกลเด้นไทรแองเกิ้ลพาราไดซ์รีสอร์ท (ฝั่งพม่า) ที่ประจำการอยู่ในเขตไทย จึงร่วมกันไปตรวจสอบพบทั้งหมดมากับรถยนต์ 2 คันเป็นรถเก๋งมิตซูบิชิสีดำ หมายเลขทะเบียน ศม 7660 กทม. และรถโตโยต้า เอสติม่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ศก 4774 กทม. จึงนำทั้งหมดพร้อมรถยนต์ไปตรวจที่ สภ.เชียงแสน
จากการตรวจสอบพบว่า หนึ่งในชายฉกรรจ์คือ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ หรือรองต่อ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 2 นายตำรวจชื่อดังจากคดีอาชญากรรมที่กรุงเทพฯ เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น ทำให้ตำรวจต้องให้ช่างกุญแจไปทำการเปิดเอง
ผลจากการตรวจรถเก๋งมิตซูบิชิ พบอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคลท์ ขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 7 นัด โดยบรรจุในรังเพลิงจำนวน 1 นัด ปืนพกสั้นชนิดรีวอลเวอร์ ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก พร้อมบรรจุกระสุน จำนวน 6 นัด และเครื่องตรวจโลหะ จำนวน 1 เครื่องและรถโตโยต้า เอสติม่า พบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อรูเกอร์ ขนาด .357 แม็กนัม จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนบรรจุในรังเพลิง 6 นัด ปืนพกสั้น ขนาด .380 ยี่ห้อ มานูแรง จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนบรรจุในรังเพลิง 7 นัด และแมกกาซีน จำนวน 2 แม็ก พร้อมกระสุน 14 นัด และอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ โคลท์ ชนิดรีวอลเวอร์ ขนาด .357 แม็กนั่ม บรรจุกระสุนในรังเพลิงจำนวน 6 นัด กระสุนปืนขนาด .357 อีก 24 นัด วิทยุโทรคมนาคมรับ-ส่ง ยี่ห้อสเปนเดอร์สีแดง จำนวน 3 เครื่อง
ทั้งหมดถูกเก็บเอาไว้ตามช่องเก็บต่างๆ ของรถ นอกจากนี้ยังพบบัตรหาเสียงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 5 ดอนเมือง สายไหม บางเขนกรุงเทพฯ พรรคประชากรไทย และกรณีของนายคมกริช ยังพบหมายจับในข้อหาพยายามฆ่า ของศาลสมุทรปราการอยู่ในรถอีกด้วย แต่ พ.ต.ท.สันธนะ อ้างว่า คดีดังกล่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงตรวจหลักฐานในตัวทุกคนพบว่า พ.ต.ท.สันธนะ มีอายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 412/248 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม., นายสมควร ดวงดี อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 126 ม.2 ต.เซกา อ.เซกา จ.หนองคาย, นายสุขสมบัติ กล่อมกูล อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 66 ซอยลาดพร้าว 41 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม., นายคมกริช ทองแก้ว อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 154 ม.3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง, นายนันทพงศ์ แซ่จึง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 155/166 ซอยสุภาพงษ์ 1 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม., นายชุมพล คิดการดี อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 82/1 ม.5 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, นายพรชัย แซ่จึง อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 155/166 ซอยสุภาพงษ์ 1 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. และนายนิรุตติ์ เรืองประทุม อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 43/4 ม.5 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
จากนั้นได้แจ้งข้อหาว่าร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันมีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สันธนะ ไม่ยอมรับทราบข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบโดยอ้างว่าไม่รับฟังและให้เจ้าหน้าที่ลบพฤติการณ์คดีทิ้งเสีย รวมทั้งขู่จะฟ้องกลับ พ.ต.อ.สุธรรม ชาติอาษา ผกก.สภ.เชียงแสน โดยอ้างว่าถูกผลักอกข่มขู่ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับฟังจึงนำตัวเข้าห้องขังดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุดมีรายงานว่าทีมทนายของ พ.ต.ท.สันธนะ ได้เดินทางไปที่ สภ.เชียงแสน เพื่อขอประกันตัวแล้ว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับจุดผ่อนปรนสบรวก ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เห็นชอบในหลักการให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรแต่ยังไม่มีการเปิดอย่างเป็นทางการ โดยในพื้นที่เขตพม่า ฝั่งตรงกันข้ามกับประเทศไทย เป็นที่ตั้งของโรงแรมโกลเด้นไทรแองเกิ้ลพาราไดซ์รีสอร์ท ซึ่งมีบ่อนกาสิโนอยู่ภายในและมักจะมีนักเล่นการพนันจากทั้งฝั่งไทยและจีนไปเล่นเป็นประจำผ่านทางจุดดังกล่าว