ตาก- สภาทนายฯเดินหน้ายื่นฟ้องศาลปกครองอีก หลังหน่วยงานรัฐเพิกเฉยแก้ปัญหาสารปนเปื้อนแคดเมียมล่าช้า ขณะที่คดีแพ่งเรียกค่าเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมส่งทีมลงพื้นที่แจงชาวบ้านกว่า 1,000 คน สกัดเกมป่วนหลังมีใบปลิวขู่ฟ้องกลับชาวบ้านที่เข้าชื่อยื่นฟ้อง
วันนี้ (9 ส.ค.) นายสมชาย อามีน ประธานคณะทำงานแนวทางการดำเนินคดีของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนของสารแคดเมียมในนาข้าว ในฐานะตัวแทนจากสภาทนายความและคณะทนายความจากสภาทนายความกรุงเทพมหานคร ได้ลงไปพบปะประชาชนกว่า 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนแคดเมียม ในพื้นที่ทำนาลุ่มน้ำแม่ตาว ที่วัดเกศแก้วบูรพา ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จ.ตาก ตามโครงการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาสังคมทุกภาคส่วนโดยใช้กระบวนการทางกฎหมายสิ่งแวดล้อม โดยการหารือครั้งนี้ได้มีการชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดี และทำความเข้าใจต่อกระบวนการฟ้องร้อง ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มๆ ออกเป็น 5 กลุ่ม
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการไต่สวนของศาล ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ฟ้องไปทั้งหมด 4 กลุ่ม โดยมีโจทก์ทั้งหมดกว่า 1,000 ราย เรียกค่าเสียหายไปทั้งหมดกว่า 3,000 ล้านบาท เบื้องต้นมีชาวบ้านยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งได้คุยกันในประเด็นนี้ คือ ชาวบ้านที่ฟ้องคดีทั้งหมดมีฐานะเป็นอย่างไร ถ้าเสียค่าธรรมเนียมศาลจะต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง และถ้าศาลเห็นว่า ชาวบ้านที่มาฟ้องคดีมีเหตุผลสมควรไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ ก็จะได้รับการยกเว้น
นายสมชาย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการซักซ้อมกับชาวบ้านที่จะต้องไปขึ้นศาลในแต่ละกลุ่มที่นัดกันไว้ และมีชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนเข้าใจไม่ตรงกัน จึงต้องสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านทราบว่า การใช้สิทธิ์ทางกฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ยอมรับว่า มีปัญหาอุปสรรคพอสมควรในเรื่องการสื่อสารกับชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง จึงต้องมาพบชาวบ้านโดยตรง
“นอกจากนี้ ยังมีใบปลิวที่ออกมาในพื้นที่ ออกมาข่มขู่ ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว ว่า หากฟ้องคดีไปแล้ว จะถูกฟ้องกลับด้วย”
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีนี้นอกจากยื่นฟ้องศาลแพ่งกรุงเทพใต้แล้ว ยังได้ฟ้องศาลปกครองในจังหวัดพิษณุโลก ในประเด็นให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องลงไปดูแลการแก้ปัญหาในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามีการแก้ปัญหาล่าช้ามาก ส่วนการฟ้องทางแพ่งของสภาทนายความนั้น ได้ฟ้องบริษัทเอกชนที่ได้สัมปทานแร่ ในพื้นที่ตำบลพระธาตุผาแดง 2 ราย มีจำเลยทั้งหมด กว่า 30 คน