“ยี้ห้อย” ลั่นสู้คดีกล้ายาง คุยเป็นคนไทย พร้อมน้อมรับ กม.ไทย

“ เนวิน” แถลงโต้ เสื้อแดงโจมตี เตรียมหนีคดีทุจริตกล้ายาง ยันไม่เคยคิดหนีฟังคำพิพากษา 17 ส.ค. ย้ำเป็นคนไทย ต้องเคารพกฎหมาย ไม่เหมือนคนที่หนีไปต่างประเทศ พร้อมปฏิเสธ อยู่เบื้องหลังค้านถวายฎีกาทักษิณ ต่อรองคดี แดกคนปล่อยข่าว จิตใจแย่

วันนี้(4 ส.ค.) ที่ห้องประชุมพรรคภูมิใจไทย ถ.พหลโยธิน เวลา 14.00 น. นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.เพื่อไทยและกลุ่มเสื้อแดงออกมาให้ข่าวอย่างต่อเนื่องว่าจะหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาทุจริตกล้ายางในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า ตนชื่อเนวิน ตนพร้อมที่จะน้อมรับคำพิพากษาของศาลทุกประการไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตนไม่เคยหนีขนาดคมช.ตนก็ยังไม่หนีเลย ดังนั้นขึ้นกับคำพิพากษาของศาลจะออกมาอย่างไรตนก็พร้อมน้อมรับ ทำไมตนต้องหนีศาลคนที่ปล่อยเพราะอยากให้เป็นเหมือนตัวเขาเองหรือเปล่า เราเป็นคนไทย อยู่ประเทศไทย สัญชาติเชื้อชาติไทยก็ต้องเคารพกฎหมายไทย ไม่เหมือนคนที่ปากบอกว่ารักประเทศไทยแต่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย

เมื่อถามว่า หากศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริงเตรียมตัวอย่างไร นายเนวิน กล่าวพร้อมทั้งหัวเราะว่า ก็ (เรือนจำ) บางเขน ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ยังอยู่ต่อไป หากนักข่าวจะไปเยี่ยมก็ให้นัดกันว่าใครจะไปวันไหน

“ ผมเป็นคนไทย เชื้อชาติไทย ชนชาติไทยพร้อมที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามระบบของกฎหมายไทย และผมน้อมรับคำตัดสินของผู้พิพากษาได้ทุกกรณี ขอยืนยันว่าในวันนที่ 17 ส.ค.นี้จะไปฟังคำพิพากษา ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดหนี เมื่อเป็นคนไทยพร้อมปฏิบัติตามกฎหมายไทย” นายเนวิน กล่าวย้ำ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีการต่อรองให้พ้นคดีจากการที่พรรคภูมิใจไทย ออกมาคัดค้านการถวายฎีกา นายเนวิน กล่าวว่า ไม่มี คนที่เอาเรื่องนี้มาพูด ตนถือว่าจิตใจแย่มาก เพราะหน้าที่ของคนไทยต้องถวายความจงรักภักดี จะต้องปกป้องสถาบันสูงสุดของชาติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องใดมาเป็นเงื่อนไข หรือต่อรองใดๆ ตนว่าคนไทยที่ไม่คิดปกป้องสถาบันของชาติ ก็ไม่ควรเป็นคนไทย

“ เรื่องนี้ผมไม่เคยอยู่เบื้องหลัง ถ้าการล่ารายชื่อเป็นเรื่องไม่บังควรและกดดันสถาบันเบื้องบน ก็ต้องอยู่เบื้องหน้าในการคัดค้าน เปิดหน้าทุกสถานที่ในการปกป้องสถาบัน ซึ่งผมพร้อมที่จะอยู่เบื้องหน้าในทุกสถานที่ ถ้าจะต้องมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ในการปกป้องสถาบัน ที่เป็นที่รักยิ่งของคนไทยทั้งชาติ ” นายเนวินกล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้คนเสื้อแดงรวบรวมรายชื่อถวายฎีกาได้ 5 ล้านชื่อแล้ว นายเนวิน กล่าว่า ตนได้ทดลองโทรศัพท์ไปหาเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องที่รู้จัก 100 คน ว่าได้ลงชื่อถวายฎีกาไปได้หรือไม่ ก็ปรากฏว่าไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ได้ลงชื่อไป เพราะโดยหลัก คนไทย ซึ่งอายุเกิน 15 ปีมีบัตรประชาชน เวลานี้มี 49 ล้านคน ถ้ามีการล่ารายชื่อ 5 ล้านคน ตามหลักสถิติเท่ากับว่า 1 ต่อ 10 ที่มีบัตรประชาชน จะต้องมี 1 คนที่ลงชื่อ แต่ปรากฏว่า คนที่ตนโทรหาคนที่รูจักทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด 100 กว่าคน กลับไม่มีใครลงรายชื่อถวายฎีกา ซึ่งข้อมุลที่ตนพูด ถือเป็นข้อมูลทางสถิติ ตนจึงมีความรู้สึกประหลาดใจ ที่มีการระบุว่ารวบรวมชื่อได้ 5 ล้านรายชื่อ

ส่วนที่คนเสื้อแดงจะมีการนำรายชื่อไปถวายฎีกาในวันที่ 17 ส.ค.นั้น นายเนวิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่บังควร ซึ่งทุกคนก็รับทราบในกระบวนการอยู่แล้วว่าผู้ที่ยื่นถวายฎีกาจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ดังนั้น ฎีกานี้ไม่ใช่ฎีการอ้งทุกข์ แต่เป้นการขอภัยโทษ ซึ่งผู้ขอจะต้องมีคุณสมบติที่เป็นญาติและคนใกล้ชิด ขณะที่คนซึ่งเป็นญาติและผู้ใกล้ชิดอย่าง พล.อ.ชัยสิทธิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ออกมาบอกว่าไม่ได้เป็นทุกข์กับเรื่องนี้ และไม่ได้ร่วมลงชื่อใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่ทำได้

“ คนอย่างนายวีระ มุกสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง เพราะนายวีระก็เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษ สมัยที่ติดคุกใน จ.บุรีรัมย์ ก็รู้ดีว่าคุณสมบัติควรเป็นอย่างไร” นายเนวิน กล่าว

นายเนวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของตนคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่ต้องการภวายความจงรักภักดี ดังนั้น จึงต้องร่วมกันทำความเข้าใจว่าเรื่องใดสมควรหรือไม่สมควร เพราะในความเป็นจริงผู้ยื่นถวายฎีกา ไม่ประสงค์ผลของการยื่นตั้งแต่ต้น เพราะทราบว่าคุณสมบัติของผู้ยื่นไม่ชอบด้วยกระบวนการของกฎหมาย ดังนั้น ย่อมจะไม่มีผลในทางปฏิบัติ แต่ตนเชื่อว่าหวังผลเพื่อต้องการแบ่งแยกประชาชนให้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบัน

“ สมมติทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงมา คนที่ไม่เห็นด้วยจะรู้สึกอย่างไร หรือในกรณีที่ไม่ลงนามโปรดเกล้าฯ ลงมา คนที่เซ็นชื่อจะรู้สึกอย่างไร ผมเข้าใจว่านี่คือเป้าหมายของการดำเนินการล่ารายชื่อ มากกว่าหวังผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับพระราชทานอภัยโทษ เพราะกระบวนการขั้นตอนไม่ชอบในกฎหมาย เพียงแค่ต้องการแบ่งแยกประชาชน เพื่อสร้างทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันเบื้องสูง” นายเนวิน กล่าว

นายเนวิน กล่าวว่า อยากฝากถึงคนเสื้อแดงว่า การแตกต่างทางความคิดไม่เป็นไร กระบวนการประชาธิปไตยมี แต่ต้องขอว่าอย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำอะไรที่ขัดกฎหมาย และนำไปสู่การแบ่งแยกของประชาชนทั้งชาติ โดยเฉพาะการสร้างทัศนคติของความแตกแยกที่จะเกิดขึ้นต่อสถาบันสูงสุดของชาติ ทั้งนี้ เรื่องการรณรงค์อยู่ที่จิตสำนึกว่าสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ปฏิบัติตรงกันหรือไม่

“ในเมื่อแกนนำเสื้อแดงมักบอกอยู่ตลอดเวลาว่าต้องการความสมานฉันท์ในชาติ แต่สิ่งที่พยายามทำ พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นผลอย่างชัดเจนอยู่แล้ว”นายเนวิน กล่าว

เมื่อถามว่า การใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย สร้างความแตกแยกมากขึ้นหรือไม่ นายเนวิน กล่าว่า “ผมไม่เคยใช้กลไกมหาดไทย ทั้งเรื่องการเมืองผมก็ขับเคลื่อนด้วยตัวผมเอง เห็นได้ชัดว่าวันที่ 7 เม.ย. ที่ผมออกมาคัดค้านการชุมนุม ก็ปรากฏชัดว่าสิ่งที่ผมพูดเกือบจะเป็นจริงทุกเรื่อง และแม้ผมจะโจมตีมากไม่เป็นอะไร ไม่ได้ท้อ และผมจะไม่ตอบโต้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปกป้องสถาบันผมก็จะอยู่เบื้องหน้า เพราะตนมีเจตนาที่บริสุทธิ์”