กาฬสินธุ์ - คนกาฬสินธุ์แห่นำทองเก่าออกมาเทขายทั้งทองคำแท่ง และทองคำรูปพรรณ หลังราคาทองคำสูงขึ้นอีก 800 บาท แต่กลับกระทบยอดขายทองที่ตกต่ำมากสุดเป็นประวัติการณ์ ชี้มาจากเศรษฐกิจตกต่ำ ราคาทองแพง
จากการสำรวจบรรยากาศการซื้อขายทองคำตามร้านทองหลายแห่งในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบว่า บรรยากาศร้านทองมีเพียงคนนำทองคำมาขายเพื่อเก็งกำไร ส่วนการซื้อทองคำรูปพรรณและทองคำแท่งกลับไม่มีในช่วงนี้ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจร้านทองระบุสาเหตุมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ และราคาทองคำที่แพงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงนี้ราคาทองคำขยับขึ้น 700-800 บาทแล้ว
นายไพรัตน์ กาญจนาศิริวรรณ เจ้าของห้างทองสีฟ้า จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ราคาทองคำขณะนี้ทองคำแท่งจำหน่ายที่ 16,000 บาท ซึ่งราคาทองคำปรับสูงขึ้น 700-800 บาท แต่การที่ทองคำมีราคาสูงขึ้นคาดว่าน่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยประชาชนส่วนใหญ่จะนำทองที่สะสมไว้มาขายเพื่อเก็งกำไร บางรายก็เอามาจำนำ แต่สำหรับทองรูปพรรณกลับขายไม่ออก ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีอยู่แล้ว ผนวกกับราคาทองคำที่สูงมากกำลังซื้อจึงมีน้อย ที่ตลอดทั้งปีการขายทองไม่คึกคัก และขายไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ด้วย
จนขณะนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการขาย เพื่อความอยู่รอดของร้านทอง โดยเฉพาะด้านการบริการ และการแจกของสมนาคุณ ส่วนพนักงานภายในร้านต้องลดจำนวนลงตามสัดส่วน หรือต้องหาธุรกิจส่วนอื่นเข้ามาเพิ่มและสำหรับร้านทองที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะการบริการขายฝาก กินดอกเบี้ยมากกว่าการจำหน่ายทอง
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายทองคำยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากยังอยู่ในสภาพซื้อง่ายขายคล่อง และยังไม่ต้องเสียภาษี จึงยังเป็นการลงทุนและคุ้มค่าที่สุด
จากการสำรวจบรรยากาศการซื้อขายทองคำตามร้านทองหลายแห่งในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบว่า บรรยากาศร้านทองมีเพียงคนนำทองคำมาขายเพื่อเก็งกำไร ส่วนการซื้อทองคำรูปพรรณและทองคำแท่งกลับไม่มีในช่วงนี้ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจร้านทองระบุสาเหตุมาจากเศรษฐกิจตกต่ำ และราคาทองคำที่แพงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงนี้ราคาทองคำขยับขึ้น 700-800 บาทแล้ว
นายไพรัตน์ กาญจนาศิริวรรณ เจ้าของห้างทองสีฟ้า จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ราคาทองคำขณะนี้ทองคำแท่งจำหน่ายที่ 16,000 บาท ซึ่งราคาทองคำปรับสูงขึ้น 700-800 บาท แต่การที่ทองคำมีราคาสูงขึ้นคาดว่าน่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยประชาชนส่วนใหญ่จะนำทองที่สะสมไว้มาขายเพื่อเก็งกำไร บางรายก็เอามาจำนำ แต่สำหรับทองรูปพรรณกลับขายไม่ออก ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีอยู่แล้ว ผนวกกับราคาทองคำที่สูงมากกำลังซื้อจึงมีน้อย ที่ตลอดทั้งปีการขายทองไม่คึกคัก และขายไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ด้วย
จนขณะนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการขาย เพื่อความอยู่รอดของร้านทอง โดยเฉพาะด้านการบริการ และการแจกของสมนาคุณ ส่วนพนักงานภายในร้านต้องลดจำนวนลงตามสัดส่วน หรือต้องหาธุรกิจส่วนอื่นเข้ามาเพิ่มและสำหรับร้านทองที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะการบริการขายฝาก กินดอกเบี้ยมากกว่าการจำหน่ายทอง
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายทองคำยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากยังอยู่ในสภาพซื้อง่ายขายคล่อง และยังไม่ต้องเสียภาษี จึงยังเป็นการลงทุนและคุ้มค่าที่สุด