นครพนม - จังหวัดนครพนมอัดงบกว่า 5 ล้านบาทหนุนชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขงเลี้ยงปลาเผาะในกระซังเสริมรายได้ หลังตลาดต้องการสูง ผู้ว่าฯชี้เป็นแหล่งอาหารในพื้นที่ทดแทนสินค้าบริโภคที่ผันผวน
นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 5,416,586 ล้านบาท ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาปากท้องและความยากจนของประชาชนในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัด คือ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด สถานีประมงน้ำจืดดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงปลาเผาะในกระซังริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มผู้เลี้ยงปลาเข้าร่วมโครงการจำนวน 200 ราย
โดยการส่งเสริมชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขงเลี้ยงปลาเผาะครั้งนี้นั้นเนื่องจากปลาเผาะเป็นปลาเลี้ยงง่ายโตเร็วซึ่งเป็นที่มีสายพันธุ์ธรรมชาติในลำน้ำโขงและตลาดต้องการมากขายในราคาไม่แพงกิโลกรัมละ 70 บาท มีแรงซื้อสูงจากผู้บริโภคทุกระดับสามารถสร้างได้แก่ผู้เลี้ยงโดยไม่ต้องไปขายแรงงานที่อื่น และที่สำคัญยังเป็นแหล่งผลิตอาหารในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงไว้ทดแทนกลไกลตลาดอาหารที่ผันผวนมีปัญหาตลอดเวลาเช่นช่วงจังหวะราคาเนื้อสุกรแพงหรือช่วงหวัดนกแพร่ระบาดชาวบ้านตื่นกระแสก็สามารถซื้อปลาเผาะหรือปลาน้ำโขงชนิดอื่นไปทดแทนได้ทันที
ดังนั้น เมื่อตลาดอาหารผันผวนนครพนมจึงไม่มีปัญหาเพราะเรามีวุตถุดิบด้านอาหารในพื้นทดแทนได้เลย
ลุงพันธ์ แก้วมณี ชาวบ้านเลี้ยงปลากระซังริมฝั่งแม่น้ำโขงกล่าวว่า การเลี้ยงปลาเพาะในกระซังนั้นเลี้ยงง่ายขายคล่องเพาะเป็นปลาตลาดประมาณ 3-4 เดือนก็จับขายได้เลยโดยปลาที่เลี้ยงจะมีหลายรุ่นทดแทนกันคือจับขายได้ตลอด สาเหตุที่ปลาเพาะเป็นปลาตลาดความต้องการสูงคือมีราคาไม่แพงกิโลกรัมละ 60-70 บาท
แต่หากเป็นปลาน้ำโขงชนิดอื่นๆที่เลี้ยงในกระซังจะมีราคาแพงกิโลกรัมละร้อยกว่าบาท คนมีฐานะถึงจะซื้อทานได้เพราะมันเลี้ยงยากโตช้าต้องใช้เวลาเป็นปีถึงจับขายได้
นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 5,416,586 ล้านบาท ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาปากท้องและความยากจนของประชาชนในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัด คือ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด สถานีประมงน้ำจืดดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงปลาเผาะในกระซังริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มผู้เลี้ยงปลาเข้าร่วมโครงการจำนวน 200 ราย
โดยการส่งเสริมชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขงเลี้ยงปลาเผาะครั้งนี้นั้นเนื่องจากปลาเผาะเป็นปลาเลี้ยงง่ายโตเร็วซึ่งเป็นที่มีสายพันธุ์ธรรมชาติในลำน้ำโขงและตลาดต้องการมากขายในราคาไม่แพงกิโลกรัมละ 70 บาท มีแรงซื้อสูงจากผู้บริโภคทุกระดับสามารถสร้างได้แก่ผู้เลี้ยงโดยไม่ต้องไปขายแรงงานที่อื่น และที่สำคัญยังเป็นแหล่งผลิตอาหารในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงไว้ทดแทนกลไกลตลาดอาหารที่ผันผวนมีปัญหาตลอดเวลาเช่นช่วงจังหวะราคาเนื้อสุกรแพงหรือช่วงหวัดนกแพร่ระบาดชาวบ้านตื่นกระแสก็สามารถซื้อปลาเผาะหรือปลาน้ำโขงชนิดอื่นไปทดแทนได้ทันที
ดังนั้น เมื่อตลาดอาหารผันผวนนครพนมจึงไม่มีปัญหาเพราะเรามีวุตถุดิบด้านอาหารในพื้นทดแทนได้เลย
ลุงพันธ์ แก้วมณี ชาวบ้านเลี้ยงปลากระซังริมฝั่งแม่น้ำโขงกล่าวว่า การเลี้ยงปลาเพาะในกระซังนั้นเลี้ยงง่ายขายคล่องเพาะเป็นปลาตลาดประมาณ 3-4 เดือนก็จับขายได้เลยโดยปลาที่เลี้ยงจะมีหลายรุ่นทดแทนกันคือจับขายได้ตลอด สาเหตุที่ปลาเพาะเป็นปลาตลาดความต้องการสูงคือมีราคาไม่แพงกิโลกรัมละ 60-70 บาท
แต่หากเป็นปลาน้ำโขงชนิดอื่นๆที่เลี้ยงในกระซังจะมีราคาแพงกิโลกรัมละร้อยกว่าบาท คนมีฐานะถึงจะซื้อทานได้เพราะมันเลี้ยงยากโตช้าต้องใช้เวลาเป็นปีถึงจับขายได้