เชียงราย – ระดมทุกหน่วยซ้อมใหญ่รับมืออุบัติเหตุร้ายแรง ขณะที่ตำรวจมึน คดีคนเมาแล้วขับเกิดทุกวัน
รายข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (10 ก.ย.) พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ รอง ผกก.งานจราจร สภ.เมืองเชียงราย และ พ.ต.ท.ชมชาติ ชุ่มมงคล สารวัตรจราจร นำกำลังตำรวจร่วมกับหน่วยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางจราจร เช่น โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน มูลนิธิสาธารณะกุล หน่วยกู้ภัย เทศบาลนครเชียงราย เอกชนที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม ฯลฯ จัดทำการซ้อมแผนรองรับอุบัติเหตุเพื่อให้ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
โดยมีการจำลองเหตุการณ์ว่าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่บริเวณทางโค้งเขตชุมชนหนองเหียง เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง โดยเกิดจากรถเมล์ซึ่งมีผู้โดยสารอยู่เต็มคันรถชนประสานงากับรถบรรทุกแก๊สหุงต้มจนทำให้ไฟลุกเต็มถนน และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันทีจำนวน 6 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 7 คน และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 14 คน
หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ปิดกั้นการจราจรบริเวณดังกล่าวชั่วคราวและให้ประชาชนที่สัญจรไปมาใช้ทางเลี่ยงอื่น จากนั้นหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครเชียงรายได้นำรถดับเพลิงเข้าดับไฟที่ลุกถังแก๊สหุงต้มอยู่กลางถนน จากนั้นหน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆ เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บโดยแยกเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเล็กน้อย เพื่อให้แพทย์และพยาบาลที่เดินทางตามไปได้ตรวจดูอาการก่อนจะปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นจึงนำส่งโรงพยาบาลขณะเดียวกันแพทย์นิติเวชร่วมกับตำรวจชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ก่อนจัดการจราจรเข้าสู่ภาวะปกติซึ่งการซักซ้อมผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะยังคงติดปัญหาเรื่องความล่าช้าในการเข้าถึงตัวผู้ป่วยอยู่บ้างแต่ก็อยู่ในวิสัยที่สามารถนำไปแก้ไขปรับปรุงได้
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวว่า เมืองเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวการจราจรจึงคับคั่งโดยเฉพาะวันหยุดยาว ดังนั้นตำรวจจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการซักซ้อมเพื่อให้แต่ละหน่วยงานได้รู้ถึงหน้าที่ของตัวเองว่าเมื่อถึงเวลาเกิดอุบัติเหตุจะต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวหากเกิดสถานการณ์จริงขึ้นมา
ทั้งนี้ อุบัติเหตุในเขต อ.เมือง ถือว่าเกิดขึ้นทุกวันส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ รวมทั้งพบว่ามีผู้ที่ดื่มสุรามึนเมาแล้วขับทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ถูกตำรวจดำเนินคดีเป็นประจำทุกวันเช่นกันโดยมีวันละประมาณ 5-10 ราย และในรอบเดือนที่ผ่านมาก็พบว่ามีผู้กระทำความผิดรวมแล้วกว่า 100 ราย ซึ่งทางตำรวจได้ควบคุมตัวส่งศาลตัดสินลงโทษและส่วนใหญ่ก็จะถูกปรับเป็นเงินขั้นต่ำรายละ 5,000 บาท
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นจึงขอให้เตือนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนอย่าได้ดื่มสุรามึนเมาแล้วมาขับรถอีก ไม่เช่นนั้นจะมีการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดไม่มีละเว้นเพราะถือเป็นสาหัสหลักๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำทุกวันดังกล่าว นอกจากเหนือไปจากความประมาทซึ่งก็มีความสำคัญเช่นกัน