ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์” มทภ.2 ยันทหารไทยไม่ถอนกำลังออกจากเขาพระวิหารแน่ ลั่นไม่ยอมเสียเปรียบ ย้ำดินแดนไทยแค่ไหนต้องเท่านั้น ระบุ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด เป็นปกติไม่น่าห่วง เผย ระดมกำลังพล-อาวุธยุทโธปกรณ์ร่วม ปชช.รวมพลังซ้อมใหญ่สวนสนามแสดงศักยภาพความพร้อมในพื้นที่หากเกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้น
วันนี้ (28 ส.ค.) พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ก่อนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ยัง จ.ศรีสะเกษ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า วันนี้ เวลาประมาณ 15.00 น.มีพิธีสวนสนามรวมพลัง ที่บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นการรวมพลังของประชาชน ทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อซักซ้อมความพร้อมของกำลังพล และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบหากมีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้น และเป็นการแสดงศักยภาพความพร้อมของทหารและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไม่ได้เป็นการท้าทายฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด เพราะเป็นการฝึกซ้อมประจำปีอยู่แล้ว
สำหรับสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังเป็นไปตามปกติไม่มีมูลเหตุที่จะนำไปสู่ความรุนแรงหรือการปะทะกัน และ สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขอยืนยันว่า ทหารไทยไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ และ ยังคงวางกำลังอยู่ในพื้นที่ตามปกติไม่ขยับอะไรทั้งสิ้น” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา กรณีที่ให้ทหารไทยและกัมพูชาถอนกำลังออกจากวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ เขาพระวิหาร ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ที่รัฐบาลเสนอให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบ นั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐสภาซึ่งคงผ่านขั้นตอนต่างๆ มาก เพราะมีหน่วยงานระดับนโยบายหลายหน่วยงานที่กลั่นกรองเรื่องเข้าสู่สภา ว่ามีความเหมาะสมอย่างไร
“ผมว่าเราคงไม่ยอมหรอกครับ ที่จะเสียเปรียบ คิดว่า ดินแดนเราแค่ไหนก็ต้องเท่านั้น ถ้าไม่ถูกต้องก็มีคณะกรรมการระดับประเทศที่จะเข้าไปดำเนินการ แต่การประชุมระหว่างประเทศยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน ในตอนนี้ระดับพื้นที่ก็ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหากันไปก่อน” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ยังยืนยันว่า จะไม่ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่อย่างเด็ดขาด นอกจากจะมีการสั่งการในระดับนโยบาย เรามีหน้าที่ในการปกป้องรักษาอธิปไตย ส่วนนโยบายจะสั่งการมาอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น
กรณีที่ฝ่ายกัมพูชาทำการก่อสร้างถนนขึ้นมายังเขาพระวิหาร นั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า กัมพูชาสร้างอยู่ในฝั่งประเทศของเขา แต่เมื่อรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.ฝ่ายไทยก็ได้แจ้งให้ทำการหยุดก่อสร้างแล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบก็มีถนนเส้นเดียว และทางกัมพูชาก็หยุดสร้างตามที่ร้องขอไป และหันไปทำเส้นทางอื่นที่อยู่ในเขตแดนของเขา
ส่วนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้เมื่อไร นั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า รอการประชุมในการปรับกำลังทหารก่อน เพื่อความเหมาะสมและความปลอดภัย จึงจะพิจารณาอีกครั้ง
