มหาสารคาม - นักวิชาการมหาสารคามชี้ “นช.แม้ว” ต่อสายเข้ารายการคลื่น “อสมท” โจมตีรัฐบาล-กระบวนการยุติธรรม เป็นการวางแผนล่วงหน้า ระบุข้ออ้าง “จอม เพ็ชรประดับ” ผู้จัดรายการเสนอข้อมูลสองด้าน ฟังไม่ขึ้น แสดงธาตุแท้ “ลิ่วล้อแม้ว”
รศ.ดร.สุทธิพงษ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาสัมภาษณ์ทางวิทยุ ผ่านทาง FM.100.5 อสมท ในรายการ เอ็กซ์คลูซีฟ ที่มี นายจอม เพ็ชรประดับ เป็นผู้ดำเนินรายการนั้น ตนมองว่า ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่า นายจอม ผู้ดำเนินรายการ จะอ้างว่า เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องมีการเสนอข่าวทั้ง 2 ด้าน แต่ในฐานะที่วิทยุ อสมท เป็นสื่อของรัฐ ควรพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระของผู้ที่ให้ข้อมูลกับประชาชนว่าเหมาะสมหรือไม่ ในห้วงเวลาที่บ้านเมืองต้องการความสงบสุข
แต่สื่อของรัฐกลับนำคนที่สร้างความแตกแยกในสังคมมานำเสนอผ่านสื่อของรัฐ เท่ากับเป็นการยุยงปลุกปั่นให้การชุมนุมวันที่ 19 กันยายน ที่จะมาถึง เกิดเหตุการณ์รุนแรงและเสียหายต่อประเทศชาติ ในฐานะของสื่อควรจะใช้วิจารณญาณในการพิจารณาถึงความเหมาะสม ซึ่งรูปแบบของการนำเสนอผ่านสื่อ เชื่อได้ว่า มีการวางแผนนัดแนะกันมา่ก่อนที่จะออกอากาศ ผู้ดำเินินรายการคงไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะถือว่าเป็นการใช้สื่อของรัฐบาล ด่ารัฐบาลเอง
“ในส่วนตัวแล้วเห็นว่า ผู้ดำเนินรายการมีพฤติกรรมชัดเจนที่ฝักใฝ่ในตัวอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จึงถือได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่อดีตนายกจะมาใ้ห้สัมภาษณ์ทางวิทยุกับรายการนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระดับสูงควรมีมาตรการเด็ดขาดในการจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น มิฉะนั้น ปรากฏการณ์แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีก ทั้งในเรื่องของอิทธิพลของตัวอดีตนายกรัฐมนตรี และอำนาจเงินที่สามารถทำเรื่องในทำนองเดียวกันนี้ได้อีก”
รศ.ดร.สุทธิพงษ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาสัมภาษณ์ทางวิทยุ ผ่านทาง FM.100.5 อสมท ในรายการ เอ็กซ์คลูซีฟ ที่มี นายจอม เพ็ชรประดับ เป็นผู้ดำเนินรายการนั้น ตนมองว่า ไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่า นายจอม ผู้ดำเนินรายการ จะอ้างว่า เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องมีการเสนอข่าวทั้ง 2 ด้าน แต่ในฐานะที่วิทยุ อสมท เป็นสื่อของรัฐ ควรพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระของผู้ที่ให้ข้อมูลกับประชาชนว่าเหมาะสมหรือไม่ ในห้วงเวลาที่บ้านเมืองต้องการความสงบสุข
แต่สื่อของรัฐกลับนำคนที่สร้างความแตกแยกในสังคมมานำเสนอผ่านสื่อของรัฐ เท่ากับเป็นการยุยงปลุกปั่นให้การชุมนุมวันที่ 19 กันยายน ที่จะมาถึง เกิดเหตุการณ์รุนแรงและเสียหายต่อประเทศชาติ ในฐานะของสื่อควรจะใช้วิจารณญาณในการพิจารณาถึงความเหมาะสม ซึ่งรูปแบบของการนำเสนอผ่านสื่อ เชื่อได้ว่า มีการวางแผนนัดแนะกันมา่ก่อนที่จะออกอากาศ ผู้ดำเินินรายการคงไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะถือว่าเป็นการใช้สื่อของรัฐบาล ด่ารัฐบาลเอง
“ในส่วนตัวแล้วเห็นว่า ผู้ดำเนินรายการมีพฤติกรรมชัดเจนที่ฝักใฝ่ในตัวอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จึงถือได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่อดีตนายกจะมาใ้ห้สัมภาษณ์ทางวิทยุกับรายการนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระดับสูงควรมีมาตรการเด็ดขาดในการจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น มิฉะนั้น ปรากฏการณ์แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นอีก ทั้งในเรื่องของอิทธิพลของตัวอดีตนายกรัฐมนตรี และอำนาจเงินที่สามารถทำเรื่องในทำนองเดียวกันนี้ได้อีก”