ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น รวบขบวนการฉ้อโกงทรัพย์สิน ที่มีเครือข่ายออกเดินสายตระเวนต้มตุ๋นทั่วประเทศ รวมมูลค่าทรัพสินย์กว่า 30 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 กันยายน 2552) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจังหวัดขอนแก่น พ.ต.ท.ยุทธนา งามชัด พนักงานสอบสวน สบ.2 สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ควบคุมตัวนางวรรวนัท บุญฤทธิ์ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดขอนแก่น เลขที่ จ.894/2551 และหมายจับศาลแขวงจังหวัดขอนแก่น เลขที่ จ.295/2552 มาสอบสวนเพื่อขยายผลในการจับกุมเครือข่ายร่วมขบวนการ ภายหลังจากร่วมกันออกตระเวนต้มตุ๋นหลอกลวงทรัพย์สิน และมีผู้เสียหายทั่วประเทศเข้าแจ้งความร้องทุกข์จำนวน 23 คดี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
พ.ต.ท.ยุทธนา งามชัด พนักงานสอบสวน สบ.2 สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้รับมอบตัวผู้ต้องหาจาก พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผู้กำกับการ 1.บก.ป.ส่วนกลาง คือนางวรรวนัท บุญฤทธิ์ นายศิวเวทย์ โลหวิสิทธิ์อารีย์ และนางภัทรภร สอนดี ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดขอนแก่น เพื่อสอบสวนขยายผลดำเนินคดีทางกฎหมาย
ภายหลังจากที่มีผู้เสียหายในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 2 ราย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพ เข้ามาติดต่อและหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์สิน โดยรายแรกเป็นผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหา เข้ามาติดต่อขอเช่ารถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส ที่มีมูลค่ากว่า 5 แสนบาท ไปแล้วไม่นำมาคืน รายที่สองเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงขอยืมเงินสดจำนวน 320,000 บาท
โดยพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหาจะเข้ามาติดต่อและอ้างว่ามีเงินฝากในตู้เซฟของธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นกว่า 100 ล้านบาท แต่ตอนนี้เดือดร้อนเพราะขาดทุนจากธุรกิจ มีความจำเป็นที่จะต้องหาเงิน เพื่อเสียค่าธรรมเนียมในการขอเปิดเซฟจากธนาคาร และจะนำเงินที่ฝากไว้มาทดแทนคืนให้ 1 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่น เปิดเผยอีกว่าจากการขยายผลการจับกุมผู้ต้องหา ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีหมายจับในคดีค้างเก่าทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2546 อีก 23 คดี รวมมูลค่าเป็นทรัพย์สินกว่า 30 ล้านบาท
อีกทั้งหนึ่งในผู้เสียหายยังเป็นตำรวจกองปราบอีกด้วย สำหรับผู้เสียหายในจังหวัดขอนแก่น ที่เคยถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงทรัพย์สินในลักษณะเดียวกัน สามารถเข้ามาติดต่อเพื่อขอทราบรายละเอียดได้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป