แฉนักการเมืองใหญ่เชียงรายส่งนอมินีลงเลือกตั้ง อบต.ตรึม

เชียงราย - เผยนักการเมืองใหญ่เมืองพ่อขุนฯ ส่งนอมินีลงสมัครชิงเก้าอี้สนามท้องถิ่นตรึม กกต.สั่งจับตา หลังข่าวแพร่สะพัด บางพื้นที่ซื้อเสียงหนักหัวละ 500-1,000 บาท

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (2 ก.ย.) นายอมรพงศ์ วิชิตกุล ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จ.เชียงราย ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ในสังกัด กกต.เพื่อซักซ้อมเตรียมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และสมาชิก อบต.เชียงราย ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ โดย จ.เชียงราย จะมีการเลือกตั้งในพื้นที่ อบต.ทั้งหมด 43 แห่ง เพื่อให้ได้นายก อบต.มาดำรงค์ตำแหน่ง 43 คน และสมาชิก อบต.จำนวน 1,058 คน เข้าไปบริหารงานท้องถิ่น ซึ่งการประชุมมีการซักซ้อมความเข้าใจโดยเฉพาะการประสานงานกับ กกต.ท้องถิ่นที่ประจำอยู่ตามตำบลต่างๆ เพื่อรายงานผลและตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด

นายอมรพงศ์กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบต.มากถึง 96 คน และเป็นสมาชิก อบต.จำนวน 2,474 คน จากทั้งหมด 533 หมู่บ้าน ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วน่าจะมีพื้นที่ตำบลที่มีการเลือกตั้งมากถึงกว่านี้อีก 21 แห่ง เป็น 64 แห่ง แต่เนื่องจากมีตำบลที่พร้อมยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลจำนวน 21 แห่ง ดังกล่าวจึงมีตำบลที่มีการเลือกตั้งระดับ อบต.เพียง 43 แห่ง ส่วนพื้นที่เทศบาลตำบลแห่งใหม่ก็จะมีการเลือกตั้งกันในอนาคตต่อไป

นายอมรพงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้พบมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการติดแผ่นป้ายหาเสียงโดยกล่าวหาฝ่ายตรงกันข้ามว่าทำไม่ถูกต้อง เช่น ตามเสาไฟฟ้า ฯลฯ อีกเรื่องคือพนักงานภายใน อบต.วางตัวไม่กลางโดยไปเข้าข้างผู้สมัครบางคน ซึ่งทาง กกต.ได้เข้าไปตรวจสอบและสอบปากคำพนักงาน อบต.เหล่านั้นแล้ว ประเมินได้ว่าส่วนใหญ่การร้องเรียนมาจากความเข้าใจผิด เพราะเหตุการณ์เกิดจากการที่พนักงาน อบต.ไปติดป้ายตามจุดต่างๆ และผู้สมัครอีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดว่าไปติดป้ายเพื่อช่วยเหลือผู้สมัครอีกฝ่ายหนึ่ง

ทั้งนี้ กกต.เห็นว่าโอกาสที่พนักงาน อบต.จะไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างโจ่งแจ้ง คงเป็นไปได้ยากเพราะคงไม่มีใครเอาตำแหน่งหน้าที่ไปเสี่ยงกับการถูกปลดหรือถอดออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน

ผู้อำนวยการ กกต.เชียงราย กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่านักการเมืองระดับประเทศหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ยังคงมีอิทธิพลในเรื่องตัวผู้สมัครระดับท้องถิ่นอยู่มาก เพราะต้องอาศัยฐานเสียงจากนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของการเมืองทั่วไป ทำให้ทาง กกต.กำลังเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ว่านอกจากการสนับสนุนอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว มีการสนับสนุนด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินนอกระบบ หรือการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่ หากพบการกระทำผิด กกต.จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งนายก อบต.และสมาชิก อบต.ในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่านักการเมืองท้องถิ่นระดับสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเป็นหัวคะแนนสำคัญของพรรคเพื่อไทยหลายคน ได้ส่งคนของตัวเองลงไปสมัครระดับนายก อบต.อย่างคึกคัก โดยมุ่งหวังจะขยายเขตพื้นที่ฐานเสียงของตัวเองให้เข้มแข็งมากขึ้น เตรียมรองรับการเลือกตั้ง ส.ส.และ อบจ.ในอนาคต

คนเหล่านี้ถือว่ามีโอกาสจะได้รับเลือกตั้งสูง เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มมีการระดมเม็ดเงินลงพื้นที่แล้วโดยมีรายงานว่ายอดซื้อเสียงสูงถึงหัวละ 500-1,000 บาท โดยเฉพาะการขยายฐานเสียงในเขตเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยที่มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย นั้น พบว่ามีสมาชิก อบจ.บางรายพยายามขยายฐานเสียงระดับ อบต.จากพื้นที่ อ.แม่จัน เข้าไปยัง อ.แม่สาย ซึ่งเป็นฐานเสียงของ ส.ส.เพื่อไทย อีกคนหนึ่งอย่างหนัก

สำหรับพื้นที่ตำบลที่จะมีการเลือกตั้งประกอบไปด้วย ต.ต้า อ.ขุนตาล ต.ริมโขง อ.เชียงของ ต.บ้านแซว และ ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง ต.ตับเต่า ต.ปล้อง ต.เวียง ต.ศรีดอนชัย ต.หนองแรด อ.เทิง ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด ต.ทานตะวัน ต.ธารทอง ต.แม่เย็น ต.เวียงห้าว ต.สั้นติสุข อ.พาน ต.ดอยฮาง และ ต.ห้วยชมพู อ.เมือง ต.แม่จัน ต.ศรีค้ำ และ ต.สันทราย อ.แม่จัน ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ต.บัวสลี และ ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว ต.บ้านด้าย ต.โป่งงาม ต.โป่งผา ต.ศรีเมืองชุมชน และ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย ต.ดอนศิลา ต.ผางาม ต.เมืองชุม ต.เวียงชัย ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ต.ดงมหาวัน ต.ทุ่งก่อ ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง ต.แม่เจดีย์ ต.แม่เจดีย์ใหม่ ต.เวียง และ ต.บัวสลี อ.เวียงป่าเป้า