พิษณุโลก - จริงหรือหลอก! ช้างน้ำจิ๋ว ชายแดนไทย-พม่า ล่าสุด ผู้บังคับหมวดฐานปฏิบัติการบ้านวาเล่ย์ นำภาพเอกซเรย์พิสูจน์เห็นโครงชัดเจน แต่แพทย์ไม่ลงความเห็นใดๆ
ร.ต.พงษ์ศักดิ์ เทพเทียน ผู้บังคับหมวดฐานปฏิบัติการบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย อ.พบพระ จ.ตากว่า งานที่ต้องปฏิบัติตามชายแดนไทย-พม่า ได้พบกับชาวบ้านตำบลวาเล่ย์ ชื่อ นายชูยศ ประสิทธิ์เมตต์ อดีตพ่อค้าไม้ที่เคยไปรับซื้อไม้ในฝั่งพม่า ปัจจุบันทำไร่ข้าวโพดในเขต 124 หมู่ 2 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ ซึ่งนายชูยศ ตนว่า มีช้างน้ำไว้ในครอบครอง 1 ตัว ลักษณะความยาวประมาณ 7 เซนติเมตร มีงา มีงวง มีหางยาว ได้มาจากชาวกะเหรี่ยงฝั่งพม่าปี 2542 ระบุว่า ได้มาจากการทอดแหในแม่น้ำกลางป่าลึก และนำช้างน้ำตัวมาให้ดู และตนขอซื้อมาในราคาหลักแสนบาท ไม่ใช่หลักหมื่น
โดย นายชูยศ ระบุว่า ต่อมากระทั่งปี 2544 ตนข้องใจ จึงเดินทางไปที่โรงพยาบบาลพะวอ และ รพ.จุฬา เพื่อนำช้างน้ำไปเอกซเรย์ว่า จริงหรือปลอมเพราะช่วงนั้นกระแสข่าวฮือฮา แต่แพทย์เอ็กซ์เรย์แล้ว กลับไม่ลงความเห็นใดๆ แจ้งเพียงว่า ไม่มีตัวอย่างเปรียบเทียบ ตนจึงนำช้างน้ำใส่กรอบกระจก ยืนยันว่า ของจริง มีคนมาขอซื้อเป็นล้านยังไม่ขาย ที่ผ่านมาได้แต่เก็บเอาไว้ ไม่ได้บอกใคร กระทั่งเข้าฝันว่า ถึงเวลาไปก็ไม่ต้องเก็บ แต่ขอให้มีคนชมเยอะๆ ตนเลยพูดกับคนรอบตัวไปเรื่อยๆ
“การบูชาช้างน้ำนั้นเป็นความเชื่อแต่ละคน ขึ้นอยู่กับศรัทธา แต่หลังจากได้มาครอบครองก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแค่ฝันครั้งสุดท้ายที่บอกว่า อยากให้คนมาชมบารมีเยอะเท่านั้น” นายชูยศ ระบุ
ล่าสุด ร.ต.พงษ์ศักดิ์ ส่งภาพถ่ายช้างน้ำและภาพถ่ายฟิล์มเอ็กซเรย์ช้างน้ำมาให้ให้ผู้สื่อข่าวพิสูจน์ได้ร่วมพิจารณาว่า เป็นของจริงหรือปลอมกันแน่ เบื้องต้นพบเพียงมีองค์ประกอบ-โครงกระดูกชัดเจนเท่านั้น