xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนครพนมแห่กราบจอมปลวกพญานาค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครพนม-ชาวบ้านหนองจันทร์นครพนมแห่กราบจอมปลวก คล้ายหัวพญานาคโผล่ 23 หัวขึ้นอยู่ในวัดร้างโบราณยุคเมืองมรุขนครอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ตั้งแต่ยังไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของสยาม ลืออาถรรพ์ขี้เหล้าลบลู่ถูกลงโทษมือหงิก และเข้าฝันชาวบ้านเป็นพญานาคเข้ามาจำพรรษา

วันนี้( 29 ส.ค.)เวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดท่าบ้านหนองจันทร์ หมู่ 13 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นวัดร้างโบราณอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงตรงข้ามวัดพระธาตุศรีโคตรบอง เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว สามารถมองเห็นสองฝั่งได้อย่างชัดเจน ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้สืบเนื่องจากมีเสียงลำลือว่าพบจอมปลวกพิศดารผิดจากจอมปลวกทั่วไปคือมีแท่งดินคล้ายเศียรพญานาคโผล่ขึ้นกลางจำปลวกซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพญานาคแสดงปาฏิหาริย์

จากการตรวจสอบจอมปลวกพิศดารนี้เกิดขึ้นบริเวณข้างกุฏิพระเกิดขึ้นริมผนังปูนกุฏิด้านนอกติดริมรั้ววัดมีจุดเด่นคือมีแท่งจอมปลวกแทงทะลุออกมาจำนวน 23 แท่ง แต่ละแท่งคล้ายหัวพญานาค โดยคนแก่ในหมู่บ้านจำนวนมากได้นำผ้าสีมาพันยอดจอมปลวกและทำขัน 5 จุดธูปเทียนคาระวบูชาด้วยความศรัทธา โดยมีความเชื่อตามวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งโขงที่ผูกพันกับพญานาคว่าเป็นจอมปลวกพญานาคแสดงให้เห็นซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นต้องขอโชคลาภตามประเพณี

พระมนตรี โชติมันโต เจ้าอาวาสวัดท่าหนองจันทร์กล่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดประมาณต้นเดือนซึ่งตนก็สังเกตจอมปลวกพญานาคนี้ตลอดเพราะอยู่ในกุฏิที่ตนอาศัยอยู่มา 7 พรรษาซึ่งไม่เคยมีจอมปลวกนี้เกิดขึ้นพึ่งมาเกิดขึ้นต้นเดือนช่วงเข้าพรรษาและไม่มีอะไรแปลก แต่มาแปลกประหลาดมา 2-3 อาทิตย์นี้เองมีชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดไปพบมีแท่งดินคล้ายหัวพญานาคกว้าง 10 ซ.ม.ยาว 20-30 ซ.ม.ตอนแรกก็โผล่ขึ้นมา 3 แท่งและเกิดขึ้นเรื่อยๆ รวมตอนนี้ก็ 23 แท่ง ซึ่งชาวบ้านก็มาแห่ดูมากขึ้นจนวันหนึ่งไม่กี่วันมานี้มีวัยรุ่นขี้เหล้าเข้ามากล่าวลบหลู่พร้อมใช้มือตบแท่งหัวพญานาคหักไป 2 หัวปรากฏว่ารุ่งเช้าชาวบ้านบอกว่าคนที่หลบลู่เกิดมือหงิกออกแรงไม่ได้เลยจึงได้ทำขัน 5 มาขอขมาแล้วมือใช้ได้ปกติยิ่งเป็นที่โจษขานของชาวบ้านแห่มากราบไหว้มากขึ้นทุกวัน

“อาตมาในฐานะพระก็ห้ามปรามความเชื่อของชาวบ้านที่นี่ไม่ได้ เพราะเขามีความเชื่อเกี่ยวพันกับพญานาคมานานเพราะเป็นหมู่บ้านชุมชนริมโขงเมื่อเห็นเขามีความสุขในสิ่งที่ทำก็ทำไป”

พระมนตรีได้เล่าประวัติของวัดท่าหนองจันทร์ว่า เกิดขึ้นในยุคเมืองโบราณริมฝั่งแม่น้ำโขงภายในวัดจะมีบ่อนำโบราณและต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบมีต้นตาลอายุ 1,000 ปี วัดตามวงรอบปี ซึ่งต้นไม้เหล่านี้คงเป็นพยานอ้างอิงทางธรรมชาติถึงความเก่าแก่ของวัดและในวัดยังมีพระพุทธรูปหินโบราณยุคสุโขทัย 2 องค์ลักษณะสร้างฐานติดกับพื้นดินไม่สามารถโยกย้ายได้นั่นคือการสร้างพระในรุ่นอดีตจะหล่อสร้างติดฐานเลย

บ้านหนองจันทร์ในอดีตก็คือเมืองมรุขนครเกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 3 ของสยาม ก่อนที่จะย้ายเมืองเข้ามาอยู่ที่บ้านโพธิ์คำซึ่งเป็นเขตเทศบาลเมืองนครพนมปัจจุบันนี้ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัดนครพนม ดังนั้นวัดนี้จึงเก่าแก่มากรวมทั้งบ้านหนองจันทร์นี่ด้วย โดยเฉพาะวัดท่าหนังจันทร์ได้ผ่านการเป็นวัดร้างมาหลายครั้งไม่มีพระมาอยู่ซึ่งพระมนตรีก็ได้มาจำพรรษาพร้อมพัฒนามา 7 ปีนี้เอง ด้วยความร่วมมือร่วมใจชาวบ้านโดยร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมนครพนมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองโบราณด้วย

นางเพ็ญศรี นนตาแสง ชาวบ้านหนองจันทร์ หมู่ 13 วัย 60 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านลงมาทำบุญที่วัดท่าหนองจันทร์ตลอดกล่าวว่า ก่อนเกิดจอมปลวกพญานาค ก่อนหน้านี้หลวงพ่อกล่าวกับตนว่ามีปลวกมากัดกินผ้าสะไบพระพุทธรูปใหญ่ขาดช่วยนำไปเย็บให้หน่อยตนจึงตัดสินใจซื้อผ้าสะไบพระมาห่มใหม่จนกระทั่งมาพบจอมปลูกพญานาคนี้และตนก็ฝันไปว่ามีงูตัวขนาดใหญ่ลำตัวสีทองสวยงามมากลอยขึ้นมาจากนำโขงเข้ามาที่จอมปลวกพญานาค พร้อมกับบอกตนว่าเป็นพญานาคขึ้นมาจำพรรษาพร้อมอยากพัฒนาวัดนี้เพราะเป็นวัดโบราณสมัยเมืองลาวถูกปล่อยทิ้งร้างมาตลอด ชาวบ้านไม่ดูแลจึงอยากเชิญชวนให้ชาวบ้านมาพัฒนาอนุรักษณ์และคนที่เข้ามาพัฒนาวัดนี้ล้วนแต่มีชาติกำเนิดเกี่ยวพันกับวัดนี้ตั้งแต่ชาติก่อนเธอก็เช่นกันพญานาคบอกตนอย่างนั้น และให้ช่วยบอกชาวบ้านได้เข้าใจว่า ตนไม่ได้มาให้โชคลาภแต่ขึ้นมาทำบุญ อยากเห็นคนลงมาทำบุญมากกว่า และพร้อมให้ความคุ้มครองครอบครัวสงบร่วมเย็นกุศลบุญที่ทำจะดลบันดาลให้เป็นสุข

นายธนิตศักดิ์ อุ่นตา หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนมเปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจสอบจอมปลวกหัวพญานาคว่า เป็นความเชื่อของชาวบ้าน ห้ามไม่ได้เพราะชาวบ้านหนองจันทร์ซึ่งเป็นชุมชนริมโขงเขามีความเชื่อมาแต่โบราณแล้ว ซึ่งจากการรวบรวมประวัติศาตร์ทั้งฝั่งไทยลาวเขามีการผูกพันกันมาก วัดนี้ก็เก่าแก่มากคือชาวลาวส่วนหนึ่งที่อยู่ในการปกครองของเจ้าเมือง"พญา"จากเมืองมรุกขนคร ฝั่งซ้ายแม่นำโขง ปัจจุบันคือเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว มาตั้งเมืองที่ริมนำห้วยบังฮวก อ.ธาตุพนม ก่อนจะเคลื่อนย้ายข้ามโขงมาตั้งเมืองมรุกขนครก็คือบ้านหนองจันทร์นี่เองซึ่งสามารถมองเห็นวัดพระธาตุศรีโคตรบองคนละฟากแม่น้ำโขงอย่างชุดเจน ยุคต่อมาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการปกครองระหว่างประเทศสยามกับลาวขึ้นในปัจจุบันแต่วัฒนธรรมกลับแยกกันไม่ออก.

กำลังโหลดความคิดเห็น