ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ รุดเยี่ยมอาการและมอบสิ่งของปลอบขวัญ ชาวบ้านอ.ขุนหาญ ทำไร่ข้าวโพดเ หยียบกับระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชาบาดเจ็บสาหัส นอนพักรักษาที่ รพ.ศรีสะเกษ เตือนประชาชนชายแดนระวังอันตรายจากกับระเบิดที่หลงเหลืออยู่
วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ตึกศัลยกรรมหญิงโรงพยาบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิศว ศะศิสมิต , นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าเยี่ยมอาการพร้อมนำสิ่งของและเงินสดจำนวนหนึ่ง มอบให้แก่ นางสำรวย บุญรอด อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 124 ม.5 บ้านหนองบัวเรน ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เหยียบระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณเท้าขวา นิ้วมือซ้าย และ บริเวณใบหน้า
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นางสำรวย พร้อมด้วยสามี คือ นายสำเนียง บุญรอด อายุ 44 ปี และ ลูกสาวทั้ง 2 คน คือ ด.ญ.ชลธิชา บุญรอด อายุ 8 ปี ด.ญ.อัจราพร บุญรอด อายุ 13 ปี ได้พากันไปดายหญ้าในไร่ข้าวโพด บริเวณด้านทิศใต้บ้านสำโรงเกียรติ ม.1 ต.บักดอง อ.ขุนหาญ ช่วง กม.10 เส้นทางสำโรงเกียรติ-ช่องพระพะลัย ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 7 กิโลเมตร (กม.) และได้ไปเหยียบกับระเบิดจนทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษในการเข้าไปทำไร่หรือหาของป่า ซึ่ง นางสำรวย และครอบครัวได้เข้าไปทำไร่ข้าวโพด ปรากฏว่า ขณะที่ดายหญ้าบริเวณด้านข้างไร่ข้าวโพดได้เหยียบกับระเบิด ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า เป็นกับระเบิดที่อยู่ค้างเก่ามานานแล้ว ไม่น่าเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ห่างจากชายแดนมากและตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อ.ขุนหาญ เพียง 10 กม. เท่านั้น
อีกทั้งดูจากชนิดของระเบิดและตำแหน่งที่ตั้ง เชื่อได้ว่า อาจเป็นระเบิดเก่าตั้งแต่สมัยมีการต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์
“ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะ อ.กันทรลักษ์, ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ ให้ระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดเหล่านี้ตกค้างอยู่ ฉะนั้นการไปเปิดพื้นที่ใหม่เพื่อทำการเกษตรต่างๆ หรือออกหาของป่า ขอให้ใช้ความระมัดระวัง ซึ่งอาจให้สัตว์เลี้ยงเดินออกหน้าไปก่อนและอย่าทำเองโดยพลการ ส่วนพื้นที่ที่เคยเพาะปลูกอยู่ก่อนแล้วก็ไม่มีปัญหาแต่อย่าขยายออกไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบุกรุกป่าเพื่อขยายที่ดินทำกินจะเป็นอันตรายมาก” นายระพี กล่าว