ASTVผู้จัดการรายวัน-สนข.ปรับแผนแม่บทรถไฟฟ้าวางกรอบปฏิบัติ 20 ปี 10 เส้นทางจัดลำดับโครงการ เน้นนำไปปฏิบัติได้ ป้องกันการเมืองเปลี่ยนแปลง จนโครงการล่าช้า เผยแผนปัจจุบันปี 47-52 กำหนดไว้ 4 สาย 291 กม.แต่ทำได้เพียงว 41 กม.เท่านั้น ชี้สายสีส้ม (บางบำหรุ-บางกะปิ) เหมาะลงทุน ประมาณผู้โดยสารกว่า 3 แสนคนต่อวัน คาดสรุปแผน ก.ค. เสนอรัฐบาลได้
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการสัมมนารับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและความต้องการของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วานนี้ (25 มี.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนฯ หรือ BMT เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันไปจนถึงอนาคต โดยจัดทำเป็นแผนระยะยาว 20 ปี มีการศึกษาจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ ที่สำคัญแผนแม่บทจะต้องมีความชัดเจนเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจและการปฎิบัติไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล
“ปัจจุบันแผนแม่บทมี 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 291 กม.ดำเนินการปี 2547-2552 แต่มีความล่าช้า ก่อสร้างได้เพียง 41 กม.ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือการปรับเปลี่ยนบ่อยเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ดังนั้นต้องแผนแม่บทนี้จะต้องมีความชัดเจนว่าจะดำเนินโครงการอย่างไรคือพร้อมที่จะนำไปปฏิบัติ เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงตามการเมืองอีก และหน่วยงานก็ต้องกล้านำเสนอการเมืองด้วยว่ามีโครงการอย่างไร หากใครมาก็แก้ไม่ได้แล้วโครงการก็เดินหน้าโดยการศึกษาจะรองรับในอนาคตที่การหนาแน่นของประชากรขยายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งคาดว่าจะสรุปแผนแม่บทในเดือนก.ค.เสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป”นายถวัลย์รัฐกล่าว
นายถวัลย์รัฐกล่าวว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า รถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางบำหรุ-บางกะปิ) มีความเหมาะสมในการลงทุน เพราะมีจำนวนผู้โดยสารสูง แต่ก็มีค่าก่อสร้างสูงมากเพราะต้องก่อสร้างเป็นระบบใต้ดินดังนั้นที่ปรึกษาต้องศึกษาถึงผลตอบแทนทางเศรฐกิจว่าคุ้มค่าในการแก้ปัญหาจราจรแค่ไหน
ดร.สุรศักดิ์ ทวีศิลป์ รองผู้จัดการโครงการศึกษาปรับแผนแม่บทฯกล่าวว่า คาดว่าจำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีส้มจะมีถึง 3 แสนคนต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงมากและคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ (EIRR) แต่ในแง่การลงทุนอาจจะไม่คุ้มเพราะคาดว่าจะสูงกว่า 1 แสนล้านบาทดังนั้น รัฐควรจะเข้ามาลงทุนงานโยธาและงานระบบและให้เอกชนเข้ามาเดินรถซึ่งจะต้องประเมินว่ากี่ปีจึงจะคุ้มเพราะจะเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าโดยสารด้วย
สำหรับรถไฟฟ้าสีส้ม ช่วงบางกะปิ-สามเสน ระยะทาง 19.8 กม.เป็นระบบใต้ดิน มี 15 สถานี ค่าก่อสร้าง 53,972 ล้านบาท ช่วง สามเสน-บางบำหรุ ระยะทาง 4 กม. ยกระดับและใต้ดิน มี 3 สถานี ค่าก่อสร้าง 95,002 ล้านบาท
นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสนข.กล่าวว่า ครม.มีมติเมื่อ 18 มี.ค. 51 ให้สนข.ปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน ซึ่งเพิ่มจาก 7 เป็น 10 โครงการ ซึ่งได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเมื่อ พ.ย. 51 ใช้เวลาศึกษา 9 เดือน ในการบูรณาการโครงข่ายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ โดยทบทวนสถานการณ์ปัจจุบันของโครงการตามแผนแม่บท และโครงข่ายในอนาคตที่เหมาะสม ทบทวนรูปแบบการดำเนินงาน จัดลำดับความสำคัญแต่ละโครงการ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยทำเป็นแผนปฏิบัติการ 5 ปีแรก 5 ปีถัดไป และ 10 ปี
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการสัมมนารับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและความต้องการของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วานนี้ (25 มี.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนฯ หรือ BMT เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันไปจนถึงอนาคต โดยจัดทำเป็นแผนระยะยาว 20 ปี มีการศึกษาจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ ที่สำคัญแผนแม่บทจะต้องมีความชัดเจนเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจและการปฎิบัติไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล
“ปัจจุบันแผนแม่บทมี 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 291 กม.ดำเนินการปี 2547-2552 แต่มีความล่าช้า ก่อสร้างได้เพียง 41 กม.ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือการปรับเปลี่ยนบ่อยเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ดังนั้นต้องแผนแม่บทนี้จะต้องมีความชัดเจนว่าจะดำเนินโครงการอย่างไรคือพร้อมที่จะนำไปปฏิบัติ เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงตามการเมืองอีก และหน่วยงานก็ต้องกล้านำเสนอการเมืองด้วยว่ามีโครงการอย่างไร หากใครมาก็แก้ไม่ได้แล้วโครงการก็เดินหน้าโดยการศึกษาจะรองรับในอนาคตที่การหนาแน่นของประชากรขยายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งคาดว่าจะสรุปแผนแม่บทในเดือนก.ค.เสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป”นายถวัลย์รัฐกล่าว
นายถวัลย์รัฐกล่าวว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า รถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางบำหรุ-บางกะปิ) มีความเหมาะสมในการลงทุน เพราะมีจำนวนผู้โดยสารสูง แต่ก็มีค่าก่อสร้างสูงมากเพราะต้องก่อสร้างเป็นระบบใต้ดินดังนั้นที่ปรึกษาต้องศึกษาถึงผลตอบแทนทางเศรฐกิจว่าคุ้มค่าในการแก้ปัญหาจราจรแค่ไหน
ดร.สุรศักดิ์ ทวีศิลป์ รองผู้จัดการโครงการศึกษาปรับแผนแม่บทฯกล่าวว่า คาดว่าจำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีส้มจะมีถึง 3 แสนคนต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงมากและคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ (EIRR) แต่ในแง่การลงทุนอาจจะไม่คุ้มเพราะคาดว่าจะสูงกว่า 1 แสนล้านบาทดังนั้น รัฐควรจะเข้ามาลงทุนงานโยธาและงานระบบและให้เอกชนเข้ามาเดินรถซึ่งจะต้องประเมินว่ากี่ปีจึงจะคุ้มเพราะจะเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าโดยสารด้วย
สำหรับรถไฟฟ้าสีส้ม ช่วงบางกะปิ-สามเสน ระยะทาง 19.8 กม.เป็นระบบใต้ดิน มี 15 สถานี ค่าก่อสร้าง 53,972 ล้านบาท ช่วง สามเสน-บางบำหรุ ระยะทาง 4 กม. ยกระดับและใต้ดิน มี 3 สถานี ค่าก่อสร้าง 95,002 ล้านบาท
นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสนข.กล่าวว่า ครม.มีมติเมื่อ 18 มี.ค. 51 ให้สนข.ปรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน ซึ่งเพิ่มจาก 7 เป็น 10 โครงการ ซึ่งได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเมื่อ พ.ย. 51 ใช้เวลาศึกษา 9 เดือน ในการบูรณาการโครงข่ายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ โดยทบทวนสถานการณ์ปัจจุบันของโครงการตามแผนแม่บท และโครงข่ายในอนาคตที่เหมาะสม ทบทวนรูปแบบการดำเนินงาน จัดลำดับความสำคัญแต่ละโครงการ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยทำเป็นแผนปฏิบัติการ 5 ปีแรก 5 ปีถัดไป และ 10 ปี
