“รมช.เกษตรฯ” ย้ำหน่วยงานรัฐ-เกษตรกร ร่วมสกัดต่างชาติกว้านซื้อที่นา

บุรีรัมย์ - รมช.เกษตรฯ กำชับหน่วยงานรัฐในสังกัด-เกษตรกร ร่วมตรวจสอบสกัดกั้นนักธุรกิจต่างชาติกว้านซื้อที่ดินทำนาข้าวสร้างความเสียหายให้กับอาชีพชาวนาไทย ยอมรับแฝงใช้บริษัทหรือผู้ประกอบการไทย เป็น “นอมินี” กว้านซื้อที่ดิน ยากต่อการตรวจสอบ

วันนี้ (24 ส.ค.) นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเป็นประธานเปิดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 41 ของสหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด ที่หอประชุมศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินงานแก่สมาชิกสหกรณ์การเกษตร 4 อำเภอ มี อ.นางรอง เฉลิมพระเกียรติ ชำนิ และ อ.โนนสุวรรณ กว่า 500 คน โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายทำนอง ศรีเมือง นายอำเภอนางรอง และส่วนราชการในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

พร้อมกันนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ ได้เป็นประธานมอบรางวัลแก่สมาชิกดีเด่น และ มอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานสมาชิกที่มาร่วมงานด้วย

สำหรับสหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด มีสมาชิก 4 อำเภอ มี อ.นางรอง เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนสุวรรณ มีสมาชิกทั้งสิ้น 4,624 ครัวเรือน 127 กลุ่มสมาชิก มีทุนเรือนหุ้นทั้งสิ้นกว่า 81 ล้านบาท ทุนสำรอง 15,774,909 บาท ทุนสะสมตามข้อบังคับ 5,653,332 บาท และในปีนี้มีผลกำไรกว่า 12 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียน 1,768 ล้านบาท ถือว่าเป็นสหกรณ์การเกษตรที่ประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้ แตกต่างจากสหกรณ์การเกษตรในหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาล้มเหลว เนื่องจากเจ้าหน้าที่บริหารจัดการสหกรณ์ปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส ทำให้สหกรณ์ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ และส่งผลให้สมาชิกขาดความเชื่อถือ จนทำให้ประสบความล้มเหลวดังกล่าว

นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาเกษตรกรที่มีหนี้สินจำนวนมากนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนการผลิตสูง ทางกระทรวงเกษตรฯ จึงมีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด ได้บูรณาการรณรงค์ให้เกษตรกรในพื้นที่ หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีซึ่งมีต้นทุนสูง ในการเพาะปลูกเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะลดปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรให้ได้ 10-15%

นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวนักธุรกิจชาวต่างชาติ เข้ามากว้านซื้อที่ดินของเกษตรกรหลายพื้นที่ เพื่อทำนาข้าวในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และเกษตรกรในทุกพื้นที่จังหวัด ได้ร่วมกันตรวจสอบว่าพื้นที่ใดมีนักธุรกิจชาวต่างชาติเข้ามากว้านซื้อที่ดินของเกษตรกร แล้วแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการสกัดกั้นไม่ให้ที่ดินตกเป็นของชาวต่างชาติ เพราะเกรงจะส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายให้กับอาชีพเกษตรกรไทยในอนาคต

“จนขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานที่ชัดเจนในกรณีดังกล่าว มีเพียงกระแสข่าวเท่านั้น เพราะยากต่อการตรวจสอบ เนื่องจากนักธุรกิจชาวต่างชาติ อาจแฝงเข้ามาโดยการใช้บริษัท หรือผู้ประกอบการในไทย เป็นนอมินี หรือตัวแทนในการซื้อที่ดิน เพื่อลงทุนทำนาในประเทศไทย แล้วส่งข้าวกลับไปยังประเทศภูมิลำเนาของตัวเองจึงขอให้เกษตรกร และหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันสอดส่องในกรณีดังกล่าวด้วย” นายศุภชัย กล่าว