พิจิตร - สำนักงานหลักประกันสุขภาพเขต 3 ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างยุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพชุมชนท้องถิ่น เร่งมุ่งเน้นให้มีการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังในชุมชนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
วันนี้ (24 ส.ค.) นายแพทย์อิ๊ดยังวัน ยงย่วน ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 3 นครสวรรค์ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการสร้างยุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพชุมชนท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร ณ โรงแรมพิจิตรพลาซ่า อำเภอเมืองพิจิตร
การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่หลักประกันสุขภาพท้องถิ่น อสม.ท้องถิ่น ผู้นำปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่อง 10 แห่งจาก 5 จังหวัด ประกอบไปด้วยจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กำแพงเพชร และพิจิตร รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรอนามัยโลก ร่วมการประชุมสัมมนาเพื่อสร้างและใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ในการกำหนดทิศทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาสุขภาพชุมชนท้องถิ่นให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่อง 10 แห่ง เพื่อนำทางไปสู่เป้าหมายการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของคนในชุมชน และเป็นแบบอย่างแก่กองทุนอื่นๆ
นายแพทย์อิ๊ดยังวัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญ ในการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้น โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นพี่เลี้ยงและที่ผ่านมาได้แสดงถึงศักยภาพ ในการดำเนินงานด้านต่างๆทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขในการเสริมสร้างสุขภาพการป้องกันโรค การดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังรวมถึงคนพิการในรูปแบบกองทุน
ด้วยการจัดสรรงบประมาณส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นรายปีตามจำนวนประชากรในอัตรา 37.50 บาท ต่อคนซึ่งขณะนี้ก้าวไปสู่ปีที่ 4 มี อบต.และเทศบาลทั้ง 5 จังหวัดในเขต 3 นี้ครอบคลุมประชากรทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน ซึ่งในปีหน้ากองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นจะเพิ่มการจัดสรรเงินเป็น 40 บาทต่อคนเพื่อผลักดันให้การสร้างเสริมสุขภาพการป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังในชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
วันนี้ (24 ส.ค.) นายแพทย์อิ๊ดยังวัน ยงย่วน ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 3 นครสวรรค์ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการสร้างยุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพชุมชนท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร ณ โรงแรมพิจิตรพลาซ่า อำเภอเมืองพิจิตร
การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่หลักประกันสุขภาพท้องถิ่น อสม.ท้องถิ่น ผู้นำปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่อง 10 แห่งจาก 5 จังหวัด ประกอบไปด้วยจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กำแพงเพชร และพิจิตร รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรอนามัยโลก ร่วมการประชุมสัมมนาเพื่อสร้างและใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ในการกำหนดทิศทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาสุขภาพชุมชนท้องถิ่นให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำร่อง 10 แห่ง เพื่อนำทางไปสู่เป้าหมายการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของคนในชุมชน และเป็นแบบอย่างแก่กองทุนอื่นๆ
นายแพทย์อิ๊ดยังวัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญ ในการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้น โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นพี่เลี้ยงและที่ผ่านมาได้แสดงถึงศักยภาพ ในการดำเนินงานด้านต่างๆทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขในการเสริมสร้างสุขภาพการป้องกันโรค การดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังรวมถึงคนพิการในรูปแบบกองทุน
ด้วยการจัดสรรงบประมาณส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นรายปีตามจำนวนประชากรในอัตรา 37.50 บาท ต่อคนซึ่งขณะนี้ก้าวไปสู่ปีที่ 4 มี อบต.และเทศบาลทั้ง 5 จังหวัดในเขต 3 นี้ครอบคลุมประชากรทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน ซึ่งในปีหน้ากองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นจะเพิ่มการจัดสรรเงินเป็น 40 บาทต่อคนเพื่อผลักดันให้การสร้างเสริมสุขภาพการป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังในชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
