ศูนย์ข่าวศรีราชา-"จงรัก จุฑานนท์"เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องคดีวิศวกรชาวเยอรมันถูกระเบิดฉีกร่าง เสียชีวิตปริศนา กว่า 2 ชม. สันนิษฐานฆ่าตัวตายเอง แต่ยังไม่ตัดประเด็นฆาตกรรม เร่งสอบสวนหลักฐานเพิ่ม เพื่อให้ความกระจ่าง หากทางเยอรมันเคลือบแคลงใจ
วันนี้ (22 ส.ค.52) ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจเอกจงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียก พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.นิวัตน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุข รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง สวญ.สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และกองวิทยาการเขต 13 จ.ชลบุรี พร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้องกว่า 20 นาย เข้าประชุม กรณีนายอูเว่ คีนเบิร์ต วิศวกรชาวเยอรมัน ถูกระเบิดฉีกร่างแหลกและดับสยองกลางสวนยางพารา เป็นเหตุให้คดีอยู่ในความสนใจ สะเทือนขวัญประชาชนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้น
หลังจากเข้าประชุม พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง สวญ.สภ.ห้วยใหญ่ เจ้าของคดี บรรยายสรุปความคืบหน้าของคดีว่า จากการสอบสวนหาหลักฐานพบว่า จากพยานสิ่งแวดล้อม โดยวิทยาการเขต 13 จ.ชลบุรี เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น หลังที่ผู้ตายเดินทางออกจากบ้านพัก เวลา 10.00 น. ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ตรวจสอบเวลา 10.43 น. พบภาพจากกล้องวงจรปิด ทางด่านเก็บเงิน บูรพาวิถี ขับรถมาเพียงลำพัง และเวลาประมาณ 14.00 น. มีชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิด และไม่เห็นรถยนต์ของคนอื่นเข้าออก
ห่างจุดระเบิดออกไป 400 เมตร พบรถยนต์ผู้ตาย สอบรอยรองเท้าภายในรถที่บริเวณคนขับ ก็เป็นรอยเดียวกับผู้ตาย ซึ่งมีรอยเท้าเดียว ก็คือรอยเท้าของผู้ตายที่เดินลงจากรถออกไปบริเวณจุดระเบิด เชื่อว่าผู้ตายน่าจะดึงสลักระเบิดเอ็ม 33 ฆ่าตัวตาย รวมทั้งยังพบสลัก และกระเดื่อง ระบุเป็น เอ็ม 33 ไม่ใช่ระเบิดซีโฟร์
นอกจากนี้ พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของผู้ตาย แหลกละเอียดเพราะแรงระเบิด ขณะนี้พบฮาร์ดดิกส์ของโน๊ตบุ๊คแล้ว กำลังให้ วิทยาการเขต 13 ไปกู้ข้อมูล หาหลักฐานเพิ่มเติมอีกด้วย
ส่วนจากการสอบสวน พยานต่าง ๆ ทั้งคนขับรถ และภรรยาของผู้ตาย พบว่า น่าสงสัย 4 ประเด็น คือ 1 เรื่องหนี้สิน ที่ผู้ตาย ทำธุรกิจสั่งซื้อเครื่องจักรโยธาให้กับนักธุรกิจชาวไอริชจนมีปัญหาเมื่อปีที่ผ่านมา ก็เคลียร์ปัญหาจบแล้ว ผู้ตายใช้เงินคืนไป 2 ล้านบาท ปัจจุบัน ก็ยังทำงานอยู่ร่วมกันตามเดิม 2 เรื่องประกอบธุรกิจ ทางผู้ตายจะขยายธุรกิจ โดยจะสั่งซื้อเครื่องจักรโยธาใหญ่มาขยายกิจการ ไปทำสัญญาสินเชื่อ กับธนาคาร ต่อมาธนาคารไม่อนุมัติ ผู้ตายจึงประสานกับภรรยา ขอให้แม่ภรรยาเอาโฉนดที่ดินมาช่วยค้ำประกันธนาคาร แต่แม่ภรรยาไม่ตกลง ทำให้เครียด จึงน่าจะเป็นประเด็น ฆ่าตัวตาย
3.มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรัก 3 เส้า เนื่องจากผู้ตายไม่เคยนอกใจภรรยาเลย แต่เร็ว ๆ นี้ ไปทำธุรกิจ ที่ประเทศมาเลเซีย เกิดไปชอบพอกับสาวชาวมาเลเซีย จนกระทั่งสาวชาวมาเลเซียโทรศัพท์คุยกับภรรยาว่า ผู้ตายจะเลิกกับภรรยา แล้วมาแต่งงานกับสาวมาเลเซียผู้นี้ จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นประเด็นให้เกิดความเครียด ในรัก 3 เส้าก็เป็นได้ ส่วนประเด็นที่ 4 ก่อนจะออกจากบ้านวันสุดท้าย ผู้ตายพูดกับภรรยาว่า เหนื่อยกับเรื่องธุรกิจที่ทำอยู่หลายอย่าง ภรรยาเข้าปลอบว่า ถ้าธุรกิจตัวไหนยุ่งมีปัญหาก็ให้ตัดทิ้งบ้าง ก็เหมือนจะเข้าใจ แล้วก็ออกจากบ้านไป
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวหลังจาการประชุมเสร็จสิน ว่า ความคืบหน้าพบว่า ผู้ตายถือระเบิดไว้ที่หน้าอก แล้วดึงสลักระเบิดเอ็ม 33 ทำให้สภาพศพขาดหายไป ซึ่งแสดงว่า ไม่น่าจะมีบุคคลอื่น เข้าไปอุ้มทำร้าย หรือนำไปฆ่า น่าจะเกิดจากการฆ่าตัวตายเองมากกว่า แต่เรื่องการฆาตกรรมก็ไม่ตัดทิ้ง มีเรื่องชู้สาวอยู่บ้าง
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวต่อว่า ตนสงสัยว่า หากฆาตกรรม คนร้ายจะทำการฆ่าด้วยวิธีอย่างไร เนื่องจากเป็นการระเบิดที่หน้าอกตัวเอง ถ้าคนร้ายกระทำการฆาตกรรมก็ต้องตายตามไปด้วย แต่ขอเวลาในการสอบสวนคดีซักระยะหนึ่ง ในเบื้องต้น ตั้งเป็นประเด็นฆาตกรรมไว้ก่อน หากสอบแล้วไม่พบบุคคลที่ต้องสงสัย หรือฆาตกร หรือไม่มีหลักฐานชัดแจ้งว่า เป็นการฆาตกรรม ก็ให้เป็นเรื่องของการฆ่าตัวตาย เพราะทางผู้ชำนาญการสอบสวน และวิทยาการเขต 13 ก็ยังเห็นตรงกัน เป็นการฆ่าตัวตายพิสดาร เพราะทราบว่าผู้ตายยังมีความเครียดทางธุรกิจ และเรื่องชู้สาว ซึ่งอาจนำมาสู่ความเครียดทำให้ฆ่าตัวตายเพราะปัญหารัก 3 เส้า
อย่างไรก็ตามจะพยายามปิดคดีนี้ให้ได้ เพราะชาวเยอรมันที่อยู่ในประเทศไทย หรือทางประเทศเยอรมัน อาจจะสงสัย เคลือบแคลงคดี อาจให้เราเข้าไปชี้แจง จะได้ชัดมีความชัดเจน ไม่ให้เป็นข้อครหา ส่วนที่ว่าจะมีการถูกมาเฟียอุ้มนั้น เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นถนนเปลี่ยว แยกเข้าไปในหมู่บ้าน จากการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่พบร่องรอยรถคันอื่น ไม่มีร่องรอยของบุคคลอื่น และใกล้เคียงเข้าออกในเวลานั้น จึงเป็นปริศนาว่าผู้ตายมาฆ่าตัวตายด้วยวิธีแบบนี้ ซึ่งเป็นการสะเทือนขวัญ ทำไมไม่ใช้วิธีอื่นก็มีจำนวนมาก เช่น ใช้ปืนยิงตัวตาย ผูกคอตายก็ได้ แต่วิธีที่ใช้ เหมือนต้องการทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คตัวเองไปด้วย เพราะก่อนฆ่าตัวตายกอดไว้ที่อกเหมือนรักมาก แต่สาเหตุการฆ่าตัวตาย ก็ยังไม่บ่งชัด หลักฐานทางฆาตกรรมก็ยังต้องสอบสวนต่อไป คงต้องรอสักระยะหนึ่ง พล.ต.อ.จงรัก กล่าวในที่สุด