เชียงราย – สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ จับมือเทศบาลแม่สาย เปิดห้องติวเข้ม “ภาษาจีน” ให้นักธุรกิจชายแดน รองรับการค้า-ทุนจีนที่ทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้เทศบาล ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร่วมกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน จัดอบรมหลักสูตรยกระดับฝีมือสาขาภาษาจีนเพื่อการทำงาน ณ ห้องประชุม 2 สำนักงานเทศบาล ต.แม่สาย โดยมี นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายเทศมนตรีเทศบาล ต.แม่สาย เป็นประธาน และมี นายธวัช เผ่าวณิช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน ให้เกียรติเข้าร่วมงาน ขณะที่ผู้เข้าร่วมประกอบไปด้วยประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าชายแดนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมอบรมจำนวนกว่า 60 คน โดยการอบรมครั้งนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2552 ที่ผ่านมาและจะไปสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ส.ค.นี้ หรือรวมระยะเวลาการอบรมทั้งสิ้น 26 วัน (60 ชั่วโมง)
โดยที่ผู้เข้าร่วมอบรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และจะได้รับความรู้ด้านภาษาจีนจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งมีการฝึกฝนการใช้ภาษาจีนตลอดระยะเวลาการเข้ารับการอบรม เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้จริง เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าชายแดนสามารถไปใช้ในการติดต่อค้าขายได้จริง ขณะเดียวกัน เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสนในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของชายแดนด้าน จ.เชียงราย ด้วย
ด้าน นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายเทศมนตรีเทศบาล ต.แม่สาย กล่าวว่า การเติบโตด้านการค้าชายแดนของ อ.แม่สาย ในปีที่ผ่านมา พบว่า มีความต่อเนื่องโดยส่วนใหญ่เป็นการค้ากับประเทศพม่าและจีนตอนใต้ รวมมูลค่าการส่งออกเกือบ 4,000 ล้านบาท และภาษาที่ใช้ติดต่อซื้อขายและทำการค้าส่วนใหญ่เป็นภาษาจีนแทบทั้งสิ้น ทำให้ภาษาจีนถือว่ามีความสำคัญต่อกิจการชายแดนด้านเชียงรายโดยเฉพาะแม่สายอย่างมาก โดยจะเห็นได้ว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จใน อ.แม่สาย และอำเภอชายแดนอื่นๆ เช่น อ.เชียงแสน อ.เชียงของ ต่างเป็นคนไทยเชื้อสายจีน และพูดภาษาจีนได้ทั้งนั้น
“หากเราให้ความสำคัญในด้านภาษาจีนเพื่อการสื่อสารและพัฒนาฝีมือแรงงาน ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้เกิดการจ้างแรงงานคนไทยไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษการค้าชายแดนซึ่งปัจจุบันรัฐบาลจีนให้การสนับสนุนลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหรียญทองคำในพื้นที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ส.ป.ป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน เป็นต้น รวมทั้งทำให้การทำกิจการในฝั่งไทยมีความสะดวกเรื่องการสื่อสารมากขึ้นซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อคนไทยอย่างมาก” นายไศลยนต์ กล่าว