xs
xsm
sm
md
lg

บุกพิสูจน์กาสิโนยักษ์จีนในลาว - เจรจาทุนใหญ่เชื่อมโปรแกรมเข้าเชียงราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – กลุ่มบริษัทนำเที่ยวไทยพร้อมคณะรองผู้ว่าฯ-นอภ.เชียงแสน บุกดูพื้นที่สร้างโปรเจกต์ยักษ์ทุนจีนในสามเหลี่ยมทองคำฝั่งลาว ล่าสุดเดินเครื่องสร้างคาสิโนใหญ่-โรงแรมหรู 700 ห้อง-สาธารณูปโภคพื้นฐานเต็มที่ก่อนเปิดบริการ วันที่ 9 เดือน 9 ปีนี้ พร้อมหารือนายทุนใหญ่จีน ร่วมดันนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่เข้าเชียงราย เปิดทางใช้บอร์เดอร์พาสข้ามแดนแทนพาสปอร์ต

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายสุเทพ เตียวตระกูล นายอำเภอเชียงแสน ได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนประมาณ 50 คน เดินทางไปยังท่าเรือพาณิชย์ล้านช้างของบริษัทสยามเซาท์ไชน่า จำกัด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อขึ้นเรือท่องเที่ยวข้ามไปยังเยี่ยมชมโครงการก่อสร้างในฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่เอกชนจีนเข้าไปลงทุนก่อสร้างและมองเห็นได้ชัดเจนจากฝั่งไทย

คณะดังกล่าวได้ขึ้นฝั่งที่เกาะดอนซาว แขวงบ่อแก้ว ซึ่งติดกับโครงการซึ่งเรียกชื่อว่า “เขตพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่อาเซียนของ สปป.ลาว” หรือ Kings Romans of Laos ASEAN economic & : tourism development zone จากนั้นบริษัทเอกชนจีนที่เป็นเจ้าของโครงการได้จัดรถนำชมโครงการภายในซึ่งทยอยก่อสร้าง โดยพบว่านอกจากสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แล้ว ยังมีการปลูกพืชเกษตรเป็นบริเวณกว้าง เช่น มะละกอ ฯลฯ เพื่อป้อนโรงงานแปรรูปในบริเวณเดียวกันด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะรองผู้ว่าฯเชียงรายได้รับรายงานความเป็นมาของโครงการว่า เกิดจากการที่คณะกรรมการแผนงานและการลงทุนของรัฐบาล สปป.ลาว ให้สิทธิสัมปทานกับกลุ่มดอกงิ้วคำของจีนเช่าที่ดินประมาณ 5,168.75 ไร่ ที่เมืองต้นผึ้งเป็นระยะเวลา 75 ปี และกลุ่มดอกงิ้วคำได้มอบหมายให้บริษัทจินมู่เหมิน จำกัด เข้าพัฒนาโครงการ โดยใช้เงินลงทุนในเฟสแรกระยะเวลา 10 ปี กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 100,000 กว่าล้านบาท) เพื่อพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวและบริการครบวงจร

โดยเฟสแรกจะเน้นสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบไฟฟ้า ถนน พนังคอนกรีตป้องกันตลิ่งแม่น้ำโขงพังทลาย โรงเรียน ร้านอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล อาคารพาณิชย์ สนามกอล์ฟ 36 หลุม อุตสาหกรรมเบา หัตถกรรม ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร เขตท่องเที่ยวเกาะดอนซาว เขตปลอดภาษี หรือดิวตี้ฟรีโซน ฯลฯ

ปัจจุบันสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว คือ ท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำโขงและถนนตรงส่วนโค้งของสามเหลี่ยมทองคำฝั่ง สปป.ลาว และมีการก่อสร้างพนังคอนกรีตป้องกันตลิ่งพังจากส่วนโค้งไปตลอดระยะโครงการเป็นระยะทางแล้วประมาณ 1 กิโลเมตร โดยบริเวณดังกล่าวยังมีการก่อสร้างอาคารสำหรับเป็นสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองด้วย

สำหรับส่วนที่เป็นศูนย์กลางของโครงการในเฟสแรกเป็นโรงแรมขนาด 700 ห้อง เรียงรายไปตามแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยมีรูปทรงเป็นเหมือนอาคารที่กลุ่มทุนจีนเคยเข้าไปก่อสร้างที่เมืองลาชายแดนจีน-พม่า ติดถนน R3B และชายแดนจีน-สปป.ลาว ที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ติดถนน R3A แต่ยังไม่เปิดให้เข้าพักอย่างเป็นทางการ

บริเวณติดกันเป็นที่ตั้งของอาคารโดมใหญ่ทรงวงกลมสำหรับเป็นบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ ภายในเป็นห้องทรงกลมที่มีความโอ่โถงกว้างหลายสิบเมตร และมีการตกแต่งอย่างโอ่อ่าสวยงาม โดยเสาและฝาพนังสร้างด้วยหินอ่อนประดับฉากอย่างดี ขณะนี้เริ่มมีการปูพื้นด้วยผ้าพรมโทนสีทองหรูหรา บริเวณตรงกลางซึ่งเป็นลานกว้างมีโต๊ะสำหรับเล่นการพนันไม่น้อยกว่า 10 โต๊ะสำหรับแขกทั่วไป และยังมีห้องพิเศษ ห้องวีไอพี ห้องแลกชิป ห้องพักผ่อน ฯลฯ ตรงด้านข้างอีกเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จทั้งภายนอกและภายใน คนงานจำนวนมากกำลังเร่งลงมือก่อสร้างทั้งถนนคอนกรีต ซึ่งแล้วเสร็จเฉพาะหน้าอาคารโรงแรมเท่านั้น โดยถนนติดเสาไฟฟ้าประดับด้วยต้นไม้สวยงาม ที่เหลือยังอยู่ระหว่างก่อสร้างเพื่อมุ่งตรงไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ ด้วย ขณะที่คนงานภายในอาคารก็กำลังเร่งปูพื้นด้วยผ้าพรม บางส่วนเร่งปูพื้น และก่ออิฐตัวหนอนด้านหน้าอาคารและอื่นๆ อย่างคึกคัก ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างส่วนใหญ่นำมาจากฝั่งไทย ผ่านทางท่าเรือพาณิชย์ล้านช้างของบริษัทสยามเซาท์ไชน่า จำกัด

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในการเข้าเยี่ยมชมโครงการของคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายครั้งนี้ นายจ้าว เหว่ย ประธานบริษัทจินมู่เหมิน จำกัด ได้ให้การต้อนรับคณะและพาชมพื้นที่บริเวณด้านในอาคาร แต่ขอร้องไม่ให้มีการบันทึกภาพภายในเนื่องจากเป็นความลับทางธุรกิจ แต่ก็ให้การอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ รวมทั้งแสดงถึงมิตรไมตรีต่อกันเป็นอย่างดียิ่ง

ซึ่งรองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และนายอุดม อ่อนนวล ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการ จ.เชียงราย รวมทั้งนายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย ได้หารือกับนายจ้าว เหว่ย เกี่ยวกับการผลักดันให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งคาดว่าจะทะลักลงมาจากจีนตอนใต้ไปยังโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมากในอนาคต ให้ไปเที่ยวต่อในฝั่ง จ.เชียงราย ได้อย่างไร ซึ่งนายจ้าว เหว่ย แสดงความเห็นชอบด้วยอย่างเต็มที่

นายจ้าว เหว่ย กล่าวว่า บริษัทเป็นเอกชนมาจากมณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ แต่เมื่อมาลงทุนตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่ที่เมืองต้นผึ้งดังกล่าว ก็พร้อมจะผลักดันการเข้าออกแดนระหว่างโครงการกับเชียงราย โดยใช้เพียงหนังสือผ่านแดนหรือบอร์เดอร์พาส แล้วเดินทางต่อไปยังมณฑลหยุนหนันต่อไป เพราะปัจจุบันคนจีนทำบอร์เดอร์พาสเข้า สปป.ลาว ได้แต่จะมาประเทศไทยต้องใช้พาสปอร์ต ซึ่งสำหรับคนจีนแล้วขอได้ยากมากแต่เมื่อโครงการอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของ สปป.ลาว และมีการทำบอร์เดอร์พาสภายในได้ก็จะพยายามต่อไป
ขณะเดียวกันเขาเห็นว่า คนจีนหยุนหนันก็ผูกพันกับชาวจีนที่อพยพไปอยู่ที่ดอยวาวี-ดอยแม่สลอง ในเชียงราย จึงอยากไปเที่ยวหาอยู่แล้วและชาวจีนส่วนใหญ่ก็อยากไปเที่ยวประเทศไทยผ่านเชียงราย-เชียงใหม่ อย่างมากหากให้คนจีนไปได้ก็จะอยู่เที่ยวในไทยอย่างน้อยคนละ 2 วัน

นายจ้าว เหว่ย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันทางการมณฑลหยุนหนัน กำลังส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลักดันเรื่องบอร์เดอร์พาสนี้เช่นกัน ถ้าสำเร็จเส้นทางเข้าสู่ประเทศไทยก็คือ จ.เชียงราย เพราะเป็นประตูของไทยที่มีทั้งทางเรือในแม่น้ำโขง ถนน R3A เชื่อมไทย-จีน ผ่าน สปป.ลาว ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมกับ อ.เชียงของ ด้วย ขณะที่เมืองห้วยทรายซึ่งติดกับถนน R3A ก็ห่างจากโครงการแห่งนี้เพียง 58 กิโลเมตรเท่านั้น จึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องคนจีนที่มาในโครงการของเขาจะเดินทางต่อไปเที่ยวเชียงราย หากว่าบอร์เดอร์พาสที่ออกในเขตโครงการได้รับการอนุญาตให้คนจีนเข้าสู่ประเทศไทยได้

ด้าน นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย แจ้งต่อ นายจ้าว เหว่ย ว่า ปัจจุบันไทยและ สปป.ลาว มีคณะกรรมการชายแดนระหว่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อ นายจ้าว เหว่ย เห็นชอบด้วยก็เสนอให้ทางโครงการได้มีตัวแทนในคณะกรรมการนี้ด้วย เพื่อจะได้หารือผลักดันกันในรายละเอียดต่อไป

ขณะที่ นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย กล่าวว่า ถ้าโครงการนี้เสร็จจะมีคนจีนเดินทางมานับ 10,000 คนต่อวัน ถ้าทุกฝ่ายอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ก็ควรจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่าง จ.เชียงราย กับโครงการเพื่อหารือกันในรายละเอียด โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการใช้บอร์เดอร์พาสผ่านจากเขตเศรษฐกิจพิเศษภายในโครงการข้ามไปยังเชียงราย ได้ เช่น ปัญหาและอุปสรรคที่ยังมีอยู่ ประโยชน์ที่แต่ละฝ่ายจะได้รับ ฯลฯ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการผลักดันร่วมกันระหว่าง จ.เชียงราย กับโครงการ ดังนั้นจึงควรจะเริ่มต้นได้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าทั้งรัฐบาลไทยและจีนเมื่อเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับก็คงจะอนุญาต

นายประธาน อินทรียงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามเซาท์ไชน่า จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันชายแดนจีน-สปป.ลาว มีปัญหาหลายเรื่องทำให้มีการปิดบ่อนคาสิโนไปแล้วกว่า 8 แห่ง ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่จะมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนจีนไปเยือนเป็นจำนวนมาก โดยจะเริ่มคึกคักเมื่อมีการเปิดโครงการในวันที่ 9 ก.ย.2552 หรือวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 และในฝั่งไทยก็จะมีสายการบินไชน่าอีสเทิร์นจากเมืองเชียงรุ้ง เขตปกครองพิเศษสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน บินไปยังท่าอากาศยานเชียงราย จ.เชียงราย คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางผ่านเชียงราย ไปเยือนสามเหลี่ยมทองคำเพื่อข้ามไปยังโครงการเป็นจำนวนมาก ขณะที่ตลาดการค้าก็จะคึกคักขึ้นไม่น้อยกว่าตลาดท่าขี้เหล็กตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพราะจะมีสินค้าคุณภาพดีราคาถูกไปประกอบในเขตอุตสาหกรรมของโครงการ รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ก็ได้สิทธิพิเศษจากเขตดิวตี้ฟรีโซนของโครงการด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับโครงการ Kings Romans of Laos ASEAN economic & tourism development zone ของกลุ่มทุนจีนใน สปป.ลาว ดังกล่าว มีการลงทุนไปแล้วกว่า 86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีการลงทุนเพิ่มไปจนถึงปี 2560 หรือครบ 10 ปีของเฟสแรกอีกประมาณ 2,914 ล้านบาท เพื่อให้ครบทั้งหมด 34 โซน สำหรับโซนที่กำลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบันเป็นโซนที่ 1-8 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คนไทยที่จะข้ามไปเที่ยวในปัจจุบันไปถึงได้แค่เกาะดอนซาวซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนเพราะโครงการส่วนใหญ่ยังไม่แล้วเสร็จจนกว่าจะถึงเปิดโครงการวันที่ 9 ก.ย.52 นี้ โดยสามารถทำหนังสือผ่านแดน 1 ปี หรือบอร์เดอร์พาสชั่วคราวข้ามจากหมู่บ้านสบรวกตรงสามเหลี่ยมทองคำนั่งเรือนำเที่ยวไปเยือนได้ สำหรับเอกชนสามารถส่งออกสินค้าผ่านท่าเรือพาณิชย์ล้านช้างไปป้อนโครงการได้อย่างต่อเนื่อง







กำลังโหลดความคิดเห็น