ลำปาง - แก๊งตกทองเริ่มอาละวาดอีก พนักงานร้านทองเยาวราชลำปางไหวตัวทันแจ้งตำรวจรวบได้ก่อนสูญเงิน
รายงานข่าวจาก จ.ลำปาง แจ้งว่า ห้องศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งจากร้านทองเยาวราชลำปาง สาขาห้างบิ๊ก-ซีลำปาง เย็น 17 ส.ค.52 ว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้หนึ่งคนขณะนำสร้อยทองมาหลอกขาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงพบทางร้านได้ควคุมตัวนางสาวอุทัย ทองสุทธิ์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.โพธิ์ชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ลายเม็ดข้าวโพดขั้นปล้อง
จากการสอบถาม น.ส.กาญจนา วุฒิธิ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 18 ม.1 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พนักงานขายหน้าร้าน เล่าว่า เมื่อเวลา 17.40 น. น.ส.อุทัย พร้อมเพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง ได้เข้ามาที่ร้านเพื่อติดต่อขอขายสร้อยคอน้ำหนักหนึ่งบาท ซึ่งตนเองได้รับทองมาตรวจสอบเบื้องตนโดยสังเกตที่รอยปั๊มซึ่งเป็นการบอกสถานที่ผลิต ก็พบว่าไม่ชัดเจน แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจ เมื่อตรวจสอบราคาขายในตอนช่วงเช้ารับซื้อในราคา 14,000 บาท แต่เมื่อช่วงเย็นราคามักจะผันผวนตนจึงได้บอกในราคา 13,900 บาท
น.ส.อุทัยก็ไม่ติดใจและตกลงขายทันที ตนจึงขอดูบัตรประจำตัว เพราะสงสัยว่าทำไมจึงไม่มีการต่อรองเลย ขายได้อย่างง่ายดายทั้งๆ ที่ น.ส.อุทัยบอกว่า มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาแฟนแต่ยังไม่พบและเงินหมด
เมื่อตนตรวจสอบชื่อ สกุล ตามบัญชีรายชื่อที่เป็นหนังสือเวียนที่ได้ส่งมาให้ทางร้านก็พบว่า นางสาวอุทัยเคยก่อเหตุนำทองปลอมไปหลอกขายที่ห้างโลตัสเพชรบูรณ์มาแล้ว ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของร้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวไว้ได้ ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งน่าจะเป็น น.ส.วิลาวัลย์ ไชยชมพู อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 127 ม.7 ต.เต่างอย จ.สกลนคร เนื่องจากมีรายชื่อในหนังสือเวียนเช่นกัน คาดว่าน่าจะรู้สถนการณ์จึงได้เดินไปเข้าห้องน้ำและหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง และตั้งข้อหาพยายามฉ้อโกงทรัพย์ประชาชน และจะได้ตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดเพื่อขยายผลในการติดตามผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป ซึ่งก็ได้ฝากเตือนบรรดาเจ้าของร้านขายทองให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย
รายงานข่าวจาก จ.ลำปาง แจ้งว่า ห้องศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งจากร้านทองเยาวราชลำปาง สาขาห้างบิ๊ก-ซีลำปาง เย็น 17 ส.ค.52 ว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้หนึ่งคนขณะนำสร้อยทองมาหลอกขาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงพบทางร้านได้ควคุมตัวนางสาวอุทัย ทองสุทธิ์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.โพธิ์ชัย อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ลายเม็ดข้าวโพดขั้นปล้อง
จากการสอบถาม น.ส.กาญจนา วุฒิธิ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 18 ม.1 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พนักงานขายหน้าร้าน เล่าว่า เมื่อเวลา 17.40 น. น.ส.อุทัย พร้อมเพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง ได้เข้ามาที่ร้านเพื่อติดต่อขอขายสร้อยคอน้ำหนักหนึ่งบาท ซึ่งตนเองได้รับทองมาตรวจสอบเบื้องตนโดยสังเกตที่รอยปั๊มซึ่งเป็นการบอกสถานที่ผลิต ก็พบว่าไม่ชัดเจน แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจ เมื่อตรวจสอบราคาขายในตอนช่วงเช้ารับซื้อในราคา 14,000 บาท แต่เมื่อช่วงเย็นราคามักจะผันผวนตนจึงได้บอกในราคา 13,900 บาท
น.ส.อุทัยก็ไม่ติดใจและตกลงขายทันที ตนจึงขอดูบัตรประจำตัว เพราะสงสัยว่าทำไมจึงไม่มีการต่อรองเลย ขายได้อย่างง่ายดายทั้งๆ ที่ น.ส.อุทัยบอกว่า มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาแฟนแต่ยังไม่พบและเงินหมด
เมื่อตนตรวจสอบชื่อ สกุล ตามบัญชีรายชื่อที่เป็นหนังสือเวียนที่ได้ส่งมาให้ทางร้านก็พบว่า นางสาวอุทัยเคยก่อเหตุนำทองปลอมไปหลอกขายที่ห้างโลตัสเพชรบูรณ์มาแล้ว ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของร้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวไว้ได้ ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งน่าจะเป็น น.ส.วิลาวัลย์ ไชยชมพู อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 127 ม.7 ต.เต่างอย จ.สกลนคร เนื่องจากมีรายชื่อในหนังสือเวียนเช่นกัน คาดว่าน่าจะรู้สถนการณ์จึงได้เดินไปเข้าห้องน้ำและหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง และตั้งข้อหาพยายามฉ้อโกงทรัพย์ประชาชน และจะได้ตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดเพื่อขยายผลในการติดตามผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป ซึ่งก็ได้ฝากเตือนบรรดาเจ้าของร้านขายทองให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย
