xs
xsm
sm
md
lg

โจรท้วม! ควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองห้างคาร์ฟูร์ กวาด 8 แสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

โจรร่างท้วมสวมหมวกกันน็อก ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้า ควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง “โอเรียนเต็ล จิวเวลรี่” อยู่ภายในห้างคาร์ฟูร์ลาดพร้าว ได้ทองไป 58 บาท มูลค่ากว่า 8 แสน ตำรวจตรวจกล้องวงจรปิดร้านใกล้เคียงพบภาพคนร้ายขณะวิ่งหนี เร่งตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.สามารถ โตดีลัง หัวหน้าสายตรวจ สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งมีคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองโอเรียนเต็ล จิวเวลรี่ ภายในห้างคาร์ฟูร์ สาขาลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่กองพิสจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุภายในร้านทองดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณโซนโฮมโปร แผนกร้านเช่า เจ้าหน้าที่พบ นายพิรุณ วัฒนา อายุ 27 ปี พนักงานขายของร้านทองที่เกิดเหตุ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก โดยเบื้องต้น เจ้าตัวให้การว่า ปกติร้านจะเปิดบริการตั้งแต่ 09.00-22.00 น.ทุกวัน โดยก่อนเกิดเหตุมีเพียงตนกับ น.ส.เสาวลักษณ์ สุขเลิศ อายุ 20 ปี พนักงานขายร้านเดียวกัน อยู่ในร้านแค่สองคนเท่านั้น จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น.ที่ผ่านมา ก็ได้มีชาย 1 คน สวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีน้ำเงิน ใช้ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าเดิน สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีครีม นุ่งกางเกงขายาวสีเข้ม เดินเข้ามาในร้าน ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นคนร้ายแน่นอน จึงลุกขึ้นเตรียมพร้อมทันที

“แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนร้ายก็ยกปืนขึ้นมาขู่บังคับเองสร้อยคอทองคำ ผมก็ยืนสังเกตปืนอยู่ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า คนร้ายจึงเอาปืนกระแทกตู้โชว์ก็มีเสียงดังของเหล็กกระทบกัน เลยมั่นใจว่าเป็นของจริงแน่นอน ผมจึงรีบเอาสร้อยคอทองคำเส้นเล็กให้ แต่เขาบอกว่าไม่เอา จะเอาเส้นใหญ่ พร้อมกับขู่ว่า ถ้าไม่หยิบกูจะยิงมึง ด้วยความกลัวตนผมต้องหยิบสร้อยคอทองคำเส้นให้ไปประมาณ 40 เส้น เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 3 บาท และ 5 บาท น้ำหนักรวมประมาณ 58 บาท มูลค่าเป็นเงินกว่า 8 แสนบาท” นายพิรุณ กล่าว

นายพิรุณ ให้การต่อว่า หลังจากนั้นใช้ปืนขู่ตนว่า ให้ส่งเงินสดมาด้วย ตนจึงตอบกลับไปว่า “เช้าๆ อย่างนี้ ไม่มีเงินหรอก” แต่คนร้ายก็ไม่เชื่อ พร้อมทั้งยกปืนมาขู่ ทำให้ น.ส.เสาวลักษณ์ ต้องหยิบเงินที่ร้านสำรองเตรียมไว้จำนวน 3,500 บาท ให้คนร้ายไป จากนั้นคนร้ายจะวิ่งหลบหนีไปทางด้านหน้าห้าง ซึ่งในส่วนของร้านตนนั้นไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้

ด้าน พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า ในเบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง ซึ่งทางร้านทองดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านเพชรทองออโรร่า ติดกับร้านที่เกิดเหตุก็พบว่า สามารถจับภาพคนร้ายขณะกำลังวิ่งหลบหนีเอาไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม.สวมหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบสีน้ำเงิน คาดว่า ผ้าปิดปากปกปิดใบหน้า ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสีครีม กางเกงยีนขายาวสีเข้ม วิ่งหลบหนีไปทางด้านหน้าห้าง

โดยหลังจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถจับภายคนร้ายได้ พร้อมเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าว เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปกติถ้าร้านขายทองดังกล่าวจะมีพนักงานขาย 3 คน แต่มีพนักงานคนหนึ่งได้ลาออกไปก่อนหน้านี้และแจ้งกับพนักงานขายที่ร้านว่าจะมาเอาของในวันนี้ แต่ยังไม่ทันมาก็มีคนร้ายมาจี้ชิงทองไปเสียก่อน สำหรับทองของร้านดังกล่าวก็ได้มีการทำประกันเอาไว้ แต่กรณีดังกล่าวทางประกันจะไม่รับผิดชอบ เพราะร้านดังกล่าวมีพนักงานไม่ถึง 3 คน เนื่องจากบริษัทประกันจะรับผิดชอบเฉพาะกรณีที่มีพนักงานอยู่ในร้าน 3 คนขึ้นไปในขณะเกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์ หรือเหตุอื่นๆ
พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 สอบปากคำนายพิรุณ วัฒนา พนักงานของร้านทองที่เกิดเหตุ
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น