พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงการจับกุมนางสาวภรณ์ภัสสรณ์ หรือ บ๋อม ศิริวงศ์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่า พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมของกลางเป็นมีดพับ 1 เล่ม สร้อยคอทองคำ 6 เส้น น้ำหนักรวม 15 บาท นาฬิกาโรเล็กซ์เรือนทองฝังเพชร 1 เรือน เงินสด 200,000 บาท และพระเครื่อง
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุแห่งการตาย และพกพาอาวุธมีด
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยที่ พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ถูกฆ่าและเผาอำพรางคดีในบ้านพัก ในหมู่บ้านกฤษดานคร 10 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ต่อมาตำรวจได้ภาพวงจรปิดขณะที่ น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ ได้นำบัตร ATM ของผู้ตายไปกดเงินสด ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากร้านทองใน จ.เพชรบูรณ์ ว่า น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ ได้นำสร้อยคอทองคำไปแลกเปลี่ยน ตำรวจจึงขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทอง และพบว่าเป็นคนๆ เดียวกัน จึงสอบสวนจนได้ความแน่ชัด ว่า น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ เป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ตาย และลงมือชิงทรัพย์ เนื่องจากเห็นว่าผู้ตายมีทรัพย์สินมาก จากนั้นจึงหลบหนีกลับบ้านที่ จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า คดีนี้ น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ ลงมือกระทำเพียงคนเดียว และจะพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ ก่อนจะส่งให้ สภ.บางใหญ่ ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุแห่งการตาย และพกพาอาวุธมีด
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยที่ พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ถูกฆ่าและเผาอำพรางคดีในบ้านพัก ในหมู่บ้านกฤษดานคร 10 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ต่อมาตำรวจได้ภาพวงจรปิดขณะที่ น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ ได้นำบัตร ATM ของผู้ตายไปกดเงินสด ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากร้านทองใน จ.เพชรบูรณ์ ว่า น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ ได้นำสร้อยคอทองคำไปแลกเปลี่ยน ตำรวจจึงขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทอง และพบว่าเป็นคนๆ เดียวกัน จึงสอบสวนจนได้ความแน่ชัด ว่า น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ เป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ตาย และลงมือชิงทรัพย์ เนื่องจากเห็นว่าผู้ตายมีทรัพย์สินมาก จากนั้นจึงหลบหนีกลับบ้านที่ จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า คดีนี้ น.ส.ภรณ์ภัสสรณ์ ลงมือกระทำเพียงคนเดียว และจะพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ ก่อนจะส่งให้ สภ.บางใหญ่ ดำเนินคดีต่อไป