เซลส์สาวกินยาแก้เครียด ขับรถต่อไปไม่ไหว จอดกะนอนพัก เจอสองโจรอ้างตัวเป็นตำรวจ เคาะกระจกบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่า ห้ามจอดให้เลื่อนรถ จนเกิดความรำคาญ จึงหมุนกระจกลงต่อว่าคนร้ายฉวยจังหวะดึงเหยื่อลงจากรถ แต่ขัดขืนคนร้ายอีกคนเข้ามานั่งในรถ พาขับออกไป แถมขู่มาส่งยาให้ใคร แล้วรื้อกระเป๋าไปเจอมีดพับ จึงใช้จี้คอบังคับเอาเงินหมื่นเก้าพันบาท และอื่นๆ เหยื่อกระโจนหนีจังหวะรถติดไฟแดง
วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 03.40 น.ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.วนาลี อนันต์พรพัฒน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/292 ซอยเอกชัย 60 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน เซลส์สาวขายสื่อสิ่งพิมพ์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.นันทพล เชื้อพรมมา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแจ้งความว่า ถูกคนร้ายเป็นชายสองคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบเข้ามาชิงทรัพย์ทั้งเงินสดและรถเก๋งฮอนด้าซีวิคไประหว่างที่จอดรถนอนหลับพักผ่อนอยู่ริมถนน
น.ส.วนาลี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ (13 พ.ค.) ตนขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ไดแมนชั่น สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ษฉ 129 กทม.ไปจอดนอนที่บริเวณปากซอยพระรามที่ 3 ซอย 72 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.เนื่องจากเกิดอาการง่วงหลังจากกินยาแก้เครียดเข้าไป ทำให้ขับรถต่อไปไม่ไหว กระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็มีชายสองคนขับขี่รถจยย.มาจอดข้างๆ รถตน ก่อนที่ชายคนผิวคล้ำจะเดินมาเคาะกระจกรถบอกตนว่า จอดบริเวณนั้นไม่ได้ให้เลื่อนรถไปอีกหน่อย
น.ส.วนาลี ให้การต่อว่า ตนจึงเลื่อนรถไปด้านหน้าประมาณ 1 เมตร เพื่อจะจอดรถนอนต่อเพราะง่วงมากขับรถต่อไปไม่ไหว แต่หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินเข้ามาเคาะกระจกบอกตนอีกว่า จอดตรงนี้ก็ไม่ได้ เพราะขวางทางเข้าออก ตนก็เลยเลื่อนรถไปด้านหน้าอีกประมาณ 2 เมตร แต่ชายคนเดิมก็เดินเข้ามาบอกตนเหมือนเดิม ทำให้ตนเปิดกระจกลง เพื่อจะต่อว่าชายคนนั้น แต่พอเปิดกระจกลงเท่านั้น ชายคนดังกล่าวก็แสดงตัวเป็นคนร้าย พยายามจะดึงตนลงจากรถ แต่ตนพยายามขัดขืนเลยถูกชายคนนั้นผลักเข้าไปให้นั่งด้านเบาะข้างคนขับ
หลังจากนั้น ผู้ชายอีกคนที่มาด้วยกันก็เดินตรงเข้ามานั่งที่เบาะคนขับ และขับรถของตนออกไปทันที ส่วนคนร้ายคนแรกก็อ้อมไปนั่งเบาะหลังรถ แล้วขู่ตนว่า เมายามาใช่ไหม มาส่งยาให้ใคร มึงมาหลายทีแล้วนะ จะไปตรวจฉี่ที่ สน.เลยไหม ก่อนที่จะรื้อค้นทรัพย์สินภายในกระเป๋า แต่คนร้ายพบมีดพับที่ตนพกไว้ป้องกันตัวก่อน ก็เลยหยิบขึ้นมาจี้คอตนไว้ แล้วก็เอาเงินในกระเป๋าไปจำนวน 19,000 บาท รวมทั้งบัตรเอทีเอ็มอีก 2 ใบ และบัตรเครดิตอีก 2 ใบไป
น.ส.วนาลี กล่าวด้วยว่า พอคนร้ายได้ทรัพย์สินไป ก็ขับรถไปตามถนนพระรามที่ 3 จนมาถึงถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน พอรถมาติดไฟแดงบริเวณฝั่งตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาดาวคะนอง ตนก็เลยตัดสินเปิดประตูกระโดดลงจากรถเพื่อหลบหนี จากนั้นก็มี นายอำพล จันทร์ศิริ อายุ 38 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทบ-29 กทม.เข้ามาช่วยเหลือพาตนไปแจ้งความที่ สน.บุคคโล ก่อนจะเดินทางมาแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.จีระศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 เปิดเผยว่า เบื้องต้นเป็นเหตุคาบเกี่ยวระหว่าง 2 ท้องที่ ซึ่งล่าสุดผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ สน.บุคคโล เป็นผู้ทำคดีนี้ ซึ่งทาง สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ยึดรถ จยย.ต้องสงสัย ยามาฮ่ามีโอ ทะเบียน ลวค 244 กทม.ที่จอดทิ้งไว้ใกล้ปากซอยพระราม3 ซอย72 เพื่อตรวจสอบหาชื่อผู้ครอบครองแล้วเรียกมาสอบว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถจยย.คันดังกล่าว แล้วพบว่า เป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่พักอาศัยอยู่ย่านคลองเตย จึงเชิญตัวมาสอบปากคำโดยเบื้องต้น เจ้าตัวอ้างว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (13 พ.ค.) ได้มีนายปอ ไม่ทราบชื่อนามสกุล มาขอยืมรถจยย.ไปใช้ และยังไม่ได้นำมาคืนแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวนายปอ มาสอบปากคำต่อไป ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่
