ศูนย์ข่าวศรีราชา - ททท.พัทยา จับมือร่วมเมืองพัทยา เร่ง 2 โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งเที่ยวทั้งวันลดทั้งเมืองและPattaya Grand Sale หวังสร้างตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยช่วงครึ่งปีหลังให้กลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ช่วงครึ่งปีแรกทรุดกว่า 50%
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 3 (เมืองพัทยา) เผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในขณะนี้ ว่า ยังไม่กระเตื้องขึ้นจากช่วงต้นปีที่ต้องเผชิญทั้งปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก และความไม่สงบทางการเมืองของไทยที่มีผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลักอย่างชาวจีนชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรก 2552 ของเมืองพัทยาลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่น้อยกว่า 50% และยังต้องจับตาสถาน การณ์การท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกหรือไม่
อย่างไรก็ดี แม้ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และความไม่สงบทางการเมืองของไทย จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในเมืองพัทยาลดน้อยลง แต่เมืองพัทยาและ ททท.พัทยา ก็มีแผนที่จะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เข้ามาในเมืองพัทยาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย 2 โครงการใหญ่ในช่วงปลายปีซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฏาคม อาทิ โครงการเที่ยวทั้งวันลดทั้งเมือง ที่ได้ขอความร่วมมือจากสถานประกอบการต่างๆ และผู้ประกอบการโรงแรมจัดแคมเปญส่วนลดในการเข้ามาใช้บริการให้กับนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่โครงการ Pattaya Grand Sale ที่จะมีส่วนลดพิเศษในการใช้บริการในส่วนต่างๆ รวมทั้งในห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ในพื้นที่
“ปกติในช่วงนี้เมืองพัทยา จะมีตลาดนักท่องเที่ยวหลักคือชาวจีน แต่เมื่อเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นในประเทศก็ทำให้รัฐบาลจีนออกประกาศห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวของเขาเดินทางเข้ามาในเมืองพัทยา ซึ่งแม้ขณะนี้รัฐบาลจีนจะยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา ขณะที่ตลาดใหญ่อย่างอินเดีย แม้ในครึ่งปีแรกจะโตกว่า 100% แต่ก็ยังถือเป็นตลาดใหม่ ที่ต้องค่อยๆ เติบโต”
นายนิติ ยังเผยอีกว่าการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ยังมีช่วงที่ต้องจับตามองว่าจะเป็นอย่างไรก็คือในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่สรุปแผนการส่งเสริมท่องเที่ยวต่างๆ ที่ได้จัดทำไว้ว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้มากน้อยเพียงใด ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาว่า จะมีผลต่อตลาดการท่องเที่ยวของไทยในปีหน้าอีกหรือไม่
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 3 (เมืองพัทยา) เผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในขณะนี้ ว่า ยังไม่กระเตื้องขึ้นจากช่วงต้นปีที่ต้องเผชิญทั้งปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก และความไม่สงบทางการเมืองของไทยที่มีผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลักอย่างชาวจีนชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรก 2552 ของเมืองพัทยาลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่น้อยกว่า 50% และยังต้องจับตาสถาน การณ์การท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกหรือไม่
อย่างไรก็ดี แม้ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และความไม่สงบทางการเมืองของไทย จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในเมืองพัทยาลดน้อยลง แต่เมืองพัทยาและ ททท.พัทยา ก็มีแผนที่จะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เข้ามาในเมืองพัทยาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย 2 โครงการใหญ่ในช่วงปลายปีซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฏาคม อาทิ โครงการเที่ยวทั้งวันลดทั้งเมือง ที่ได้ขอความร่วมมือจากสถานประกอบการต่างๆ และผู้ประกอบการโรงแรมจัดแคมเปญส่วนลดในการเข้ามาใช้บริการให้กับนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่โครงการ Pattaya Grand Sale ที่จะมีส่วนลดพิเศษในการใช้บริการในส่วนต่างๆ รวมทั้งในห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ในพื้นที่
“ปกติในช่วงนี้เมืองพัทยา จะมีตลาดนักท่องเที่ยวหลักคือชาวจีน แต่เมื่อเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นในประเทศก็ทำให้รัฐบาลจีนออกประกาศห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวของเขาเดินทางเข้ามาในเมืองพัทยา ซึ่งแม้ขณะนี้รัฐบาลจีนจะยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา ขณะที่ตลาดใหญ่อย่างอินเดีย แม้ในครึ่งปีแรกจะโตกว่า 100% แต่ก็ยังถือเป็นตลาดใหม่ ที่ต้องค่อยๆ เติบโต”
นายนิติ ยังเผยอีกว่าการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ยังมีช่วงที่ต้องจับตามองว่าจะเป็นอย่างไรก็คือในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่สรุปแผนการส่งเสริมท่องเที่ยวต่างๆ ที่ได้จัดทำไว้ว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้มากน้อยเพียงใด ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาว่า จะมีผลต่อตลาดการท่องเที่ยวของไทยในปีหน้าอีกหรือไม่