เชื่อโอลิมปิกปักกิ่งไม่ฉุดศก.โดยรวมจีนโต แต่ไทยอาจได้อานิสงส์นักท่องเที่ยวเพิ่ม

ผู้จัดการออนไลน์ – ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนเชื่อโอลิมปิกปักกิ่งจะไม่ฉุดเศรษฐกิจโดยรวมทั้งประเทศพุ่งติดจรวด เหตุความคึกคักกระจุกตัวอยู่ไม่กี่เมืองเท่านั้น อย่างไรก็ตามในแง่ประโยชน์ต่อประเทศข้างเคียงนั้น ไทยอาจได้อานิสงส์จากนักกีฬาและนักท่องเที่ยว ที่มาเปลี่ยนเครื่องหรือพักแวะระหว่างเดินทางไปร่วมมหกรรมโอลิมปิก

จากการที่จีนทุ่มเทงบประมาณมหาศาลในการซ่อมแซมและก่อสร้างศูนย์จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก รวมไปถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินสายใหม่ งบประมาณเพื่อสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงภาพลักษณ์เมืองอื่นๆ เหล่านี้ได้จุดชนวนความสงสัยว่า สิ่งที่จีนจะได้รับตอบแทนนั้นคุ้มค่าหรือกับเม็ดเงินลงทุน เฉพาะค่าใช้จ่ายทางตรง 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายทางอ้อมอื่นๆ อีก

ในแง่ของการท่องเที่ยวนั้น มีแรงคาดการณ์ว่าโอลิมปิกปักกิ่งจะกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในเมืองหลวงจีนให้ขยายตัวถึง 8-9% โดยในช่วงจัดการแข่งขันนั้น คาดมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาราว 600,000 คน และนักท่องเที่ยวจีนเองอีก 2.5 ล้านคน ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2008 นั้น ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนปักกิ่งอาจทะยานไปถึง 4.5 ล้านคน และการท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวจีน 102 ล้านคน จะสร้างรายได้รวมกันถึง 245,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของปักกิ่งเองในปี 2008 นี้น่าจะขยายตัวถึง 12.5% หรือคิดเป็น 124,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้ต่อหัวของประชากรปักกิ่ง จะเพิ่มเป็น 7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี

อย่างไรก็ตาม ในงานเสวนา “จีนกับโอลิมปิกส์ 2008: เหลียวหลังแลหน้ามหาอำนาจยุคใหม่ของโลก” ณ ศูนย์ศึกษาสาทรธานี มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.) ดร.สักกรินทร์ นิยมศิลป์ จากสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) กล่าวว่า ถึงแม้โอลิมปิกจะดันเศรษฐกิจของปักกิ่งขยายตัวไปอย่างมาก แต่เชื่อว่าจะไม่ฉุดจีดีพีโดยรวมของทั้งประเทศให้ทะยานตามไปด้วย

“ในระยะสั้นผลกระทบทางบวกจากโอลิมปิกนั้นจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะในเมืองปักกิ่ง เทียนจิน และมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก เนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานบริเวณนั้น แต่เนื่องจากจีดีพีของปักกิ่งนั้นคิดเป็น 3% ของจีดีพีทั้งประเทศเท่านั้น จึงไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมดคึกคักมากนัก”

โดยทั้งปีนี้ดร.สักกรินทร์คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงเช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อันสืบเนื่องมาจากปัญหาราคาน้ำมัน เงินเฟ้อเพิ่มสูง ปัญหาซัปไพร์มส์ และเศรษฐกิจยุโรปญี่ปุ่น และเอเชียชะลอตัว เมื่อพิจารณาจากจีดีพีครึ่งปีแรกของจีนที่ชะลอตัวอยู่ที่ 10.4% จากที่เมื่อปีที่แล้วขยายตัวสูงถึง 11.4% ดัชนีราคาผู้บริโภคครึ่งปีแรกพุ่งถึง 7.9% ขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 4.8% เท่านั้น

พร้อมกันนี้ยังคาดว่าเศรษฐกิจนับจากนี้ไปจนถึงปี 2010 ของจีนนั้น น่าจะชะลอตัวที่ 9-10% เนื่องจากโครงสร้างรัฐวิสาหกิจของจีน มีผลทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น การแปรรูปการเงินการธนาคาร ทำให้ระบบสินเชื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยอดเกินดุลการค้าของจีนจะลดลงเนื่องจากเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ อาจถึง 6.5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้ ผนวกกับอุปสงค์ภายในประเทศแข็งแกร่งขึ้น

แม้ในแง่เศรษฐกิจทั้งประเทศ โอลิมปิกจะไม่สร้างแรงกระเพื่อมมากนัก แต่หากการจัดการแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว โอลิมปิกจะช่วยประชาสัมพันธ์ความทันสมัยของจีนให้ประจักษ์ต่อสายตาผู้ชมกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก อีกทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์การลงทุน การท่องเที่ยว และการจัดแสดงสินค้าการประชุมระหว่างประเทศในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า หลังจากก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ของจีนอาจตกต่ำลงไปบ้างจากปัญหาการปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยในทิเบต รวมไปถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนอื่นๆ

นอกจากนี้ โอลิมปิกจะยังผลประโยชน์ต่อเมืองหลวงปักกิ่งโดยตรง ในแง่การส่งเสริมแรงแข่งขันของปักกิ่งให้เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ปักกิ่งกำลังแข่งขันกับนครเซี่ยงไฮ้ ขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งประเทศจีน โดยเซี่ยงไฮ้เองในปี 2010 นี้ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์ เอ็กซโป ด้วยเช่นกัน งานนี้เซี่ยงไฮ้ก็ไม่ยอมน้อยหน้าทุ่มงบประมาณไปมหาศาลเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยนั้น ดร.สักกรินทร์เชื่อว่า“ประเทศไทยอาจได้รับอานิสงส์จากโอลิมปิกบ้าง จากจำนวนนักกีฬา และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนจีนเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรป และตะวันออกกลาง ที่น่าจะมาแวะพัก หรือเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการบินแห่งหนึ่งในภูมิภาค ที่เป็นจุดเปลี่ยนเครื่องของนักเดินทางกลุ่มดังกล่าว”