ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กกร.เชียงใหม่ ร่วมองค์กรเครือข่ายและ 7 สถาบันอุดมศึกษา แถลงการณ์ประกาศจุดยืนเรียกร้องทุกฝ่ายสร้างความสมานฉันท์-ยุติความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุน พยุงเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากบ้างหลังรับผลกระทบมานาน
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และชมรมธนาคารจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยองค์กรเครือข่ายในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยสาขาเชียงใหม่-ลำพูน สมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) และสถาบันอุดมศึกษา 7 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ร่วมกันแถลงการณ์ เรื่อง “การสร้างความสมานฉันท์เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่”
โดยเนื้อหาของแถลงการณ์ในครั้งนี้เป็นการแสดงความตระหนักและความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่อยู่ในภาวะถดถอยและชะงักงันเนื่องจากการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ จนทำให้บรรยากาศการลงทุน การท่องเที่ยวและการส่งออกของจังหวัดเชียงใหม่ต้องตกอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ในวงกว้าง และหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปในลักษณะนี้จะยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและยากแก้ไข้ ทั้งนี้เห็นว่าทุกฝ่ายควรต้องสละประโยชน์ส่วนตนและหันหน้าเข้าหากัน เพื่อกอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ สร้างบรรยากาศการลงทุน การค้าขาย การท่องเที่ยว และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดย กกร.จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมองค์กรเครือข่ายและสถาบันอุดมศึกษาได้แถลงการณ์แสดงจุดยืนและข้อเรียกร้อง 7 ข้อ ได้แก่
1.เราสนับสนุนการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่ใช่ด้วยวิธีการที่รุนแรง หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย สร้างความแตกแยกและเดือดร้อนต่อส่วนรวม จนส่งผลต่อภาคธุรกิจที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีของผู้คนโดยรวม 2.การชุมนุมเรียกร้องของทุกกลุ่ม ขอให้ตั้งอยู่ในขอบเขตของกฎหมายและสมเหตุสมผล โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และส่งผลในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ 3.ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพราะใกล้ถึงฤดูกาลการท่องเที่ยวแล้ว และขอให้หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการและการให้บริการแก่ผู้มาเยือน
4.ขอเรียกร้องให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ แสดงจุดยืนในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีน้ำใจไมตรี อันเป็นคุณลักษณะที่มีเสน่ห์โดดเด่นของชาวล้านนามาช้านาน 5.ขอเรียกร้องให้ภาคการเมือง เร่งหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยเร่งด่วน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในชาติ อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว 6.ขอเรียกร้องให้ผู้มีหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยบังคับใช้กฏหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ
7.ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารประเทศเร่งก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยถือเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมนานาติ อันเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ภาคเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ เนื้อหาในส่วนท้ายของแถลงการณ์ยังได้มีการแสดงความเชื่อมั่นว่า หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือร่วมใจ หันหน้าเข้าหากันในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ อย่างจริงใจและเป็นกลาง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้งแล้ว จะสามารถรักษาบ้านเมืองไม่ให้บอบช้ำ และจะสามารถกอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างแน่นอน พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ต่อประชาสังคม ในอันที่จะสนับสนุนและหรือต่อต้านการกระทำใด ๆ ด้วยหลักการบนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง ทั้งนี้ด้วยความเป็นกลางและบริสุทธิ์ใจที่จะให้จังหวัดเชียงใหม่ มีโอกาสเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนสืบไป
นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การร่วมแถลงการณ์ในครั้งนี้ เพื่อประกาศให้ทราบจุดยืนของภาคเอกชนและภาคการศึกษาที่ต้องการเห็นความสมานฉันท์ของทุกฝ่าย โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจของเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งมานาน ทั้งนี้แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่จะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายหันหน้าสมานฉันท์แล้วจะช่วยให้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ด้วยดี โดยแถลงการณ์ในครั้งนี้จะมีการยื่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ต่อไปด้วย
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และชมรมธนาคารจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยองค์กรเครือข่ายในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยสาขาเชียงใหม่-ลำพูน สมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) และสถาบันอุดมศึกษา 7 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ร่วมกันแถลงการณ์ เรื่อง “การสร้างความสมานฉันท์เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่”
โดยเนื้อหาของแถลงการณ์ในครั้งนี้เป็นการแสดงความตระหนักและความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่อยู่ในภาวะถดถอยและชะงักงันเนื่องจากการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ จนทำให้บรรยากาศการลงทุน การท่องเที่ยวและการส่งออกของจังหวัดเชียงใหม่ต้องตกอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ในวงกว้าง และหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปในลักษณะนี้จะยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและยากแก้ไข้ ทั้งนี้เห็นว่าทุกฝ่ายควรต้องสละประโยชน์ส่วนตนและหันหน้าเข้าหากัน เพื่อกอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ สร้างบรรยากาศการลงทุน การค้าขาย การท่องเที่ยว และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดย กกร.จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมองค์กรเครือข่ายและสถาบันอุดมศึกษาได้แถลงการณ์แสดงจุดยืนและข้อเรียกร้อง 7 ข้อ ได้แก่
1.เราสนับสนุนการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่ใช่ด้วยวิธีการที่รุนแรง หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย สร้างความแตกแยกและเดือดร้อนต่อส่วนรวม จนส่งผลต่อภาคธุรกิจที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีของผู้คนโดยรวม 2.การชุมนุมเรียกร้องของทุกกลุ่ม ขอให้ตั้งอยู่ในขอบเขตของกฎหมายและสมเหตุสมผล โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และส่งผลในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ 3.ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพราะใกล้ถึงฤดูกาลการท่องเที่ยวแล้ว และขอให้หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการและการให้บริการแก่ผู้มาเยือน
4.ขอเรียกร้องให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ แสดงจุดยืนในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีน้ำใจไมตรี อันเป็นคุณลักษณะที่มีเสน่ห์โดดเด่นของชาวล้านนามาช้านาน 5.ขอเรียกร้องให้ภาคการเมือง เร่งหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยเร่งด่วน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในชาติ อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว 6.ขอเรียกร้องให้ผู้มีหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยบังคับใช้กฏหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ
7.ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารประเทศเร่งก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยถือเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมนานาติ อันเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ภาคเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ เนื้อหาในส่วนท้ายของแถลงการณ์ยังได้มีการแสดงความเชื่อมั่นว่า หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือร่วมใจ หันหน้าเข้าหากันในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ อย่างจริงใจและเป็นกลาง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้งแล้ว จะสามารถรักษาบ้านเมืองไม่ให้บอบช้ำ และจะสามารถกอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างแน่นอน พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ต่อประชาสังคม ในอันที่จะสนับสนุนและหรือต่อต้านการกระทำใด ๆ ด้วยหลักการบนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง ทั้งนี้ด้วยความเป็นกลางและบริสุทธิ์ใจที่จะให้จังหวัดเชียงใหม่ มีโอกาสเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนสืบไป
นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การร่วมแถลงการณ์ในครั้งนี้ เพื่อประกาศให้ทราบจุดยืนของภาคเอกชนและภาคการศึกษาที่ต้องการเห็นความสมานฉันท์ของทุกฝ่าย โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจของเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งมานาน ทั้งนี้แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่จะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายหันหน้าสมานฉันท์แล้วจะช่วยให้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ด้วยดี โดยแถลงการณ์ในครั้งนี้จะมีการยื่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ต่อไปด้วย