ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจับมือภาคเอกชนเชียงใหม่ “มหกรรมการออม การลงทุนครบวงจร” มุ่งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการออมและการลงทุนที่เหมาะสมและมีประสิทธิแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาค
วันนี้(1 ส.ค.52) ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ นายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการออม การลงทุนครบวงจร : SET In the City สัญจร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาค ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การการสัมมนา เสวนาวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจ การลงทุน การออม นิทรรศการเพื่อการลงทุน โดยกว่า 20 หน่วยงานที่มาให้คำปรึกษาด้านการเงิน การลงทุน เป็นต้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเงินที่ค่อนข้างซับซ้อนในปัจจุบัน โดยเฉพาะในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทั้งผู้ประกอบการและภาคครัวเรือน ดังนั้นการก้าวให้ทันข้อมูลข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ จึงเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานและการบริหารเงินรวมทั้งการลงทุนอย่างคุ้มค่า เพื่อช่วยให้เงินทุกบาททุกสตางค์เกิดประโยชน์และงอกเงยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับชาวเชียงใหม่และผู้เข้าชมงานทุกคน
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการการลงทุนแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายขยายฐานผู้ลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งสร้างวัฒนธรรมในการออม และการบริหารเงินส่วนบุคคลอย่างชาญฉลาด เน้นพัฒนาความด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนพื้นฐานแก่ประชาชนทั่วไป ด้วยการนำเสนอผ่านทางเลือกการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับรูปแบบการดำเนินชีวิต
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ เป็นศูนย์กลางธุรกิจของภาคเหนือและมีมูลค่าการออมและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สูงเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคนี้ โดยข้อมูล ณ สิ้นเดือน พ.ค.52 มีฐานเงินออมกว่า 112,782 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.99 ของภาคเหนือ ส่วนมูลค่าการซื้อขายขายหลักทรัพย์ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.52 มีมูลค่า 37,022.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39.34 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในภาคเหนือ และปัจจุบันมีสำนักงานสาขาของบริษัทหลักทรัพย์เปิดให้บริการอยู่ 18 แห่ง 22 สาขา ซึ่งเชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อการจัดการการเงิน การลงทุน รวมทั้งการประกอบธุรกิจอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด