สุรินทร์ – งานมหกรรมศิลปาชีพอีสานใต้และเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ฯ จัดแสดงแฟชั่นโชว์ “ชุดผ้าไหมยกทอง” ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมชื่อก้องโลกของชาวบ้าน ต.ท่าสว่าง ด้วยชุดผ้าไหมลายยกทองใช้ในงานพระราชพิธี 3 ชุด สุดสวยวิจิตรงดงามอลังการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี
วันนี้ (11 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพอีสานใต้ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทางจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกภาคส่วนใน จ.สุรินทร์ ได้จัดงาน “มหกรรมศิลปาชีพอีสานใต้และเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ ปี 2552” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี ระหว่างวันที่ 10-12 ส.ค. นี้
ภายในงานดังกล่าวมีกิจกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงผลงานของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพอีสานใต้, นิทรรศการพระราชกรณียกิจ, นิทรรศการผ้าไหม, นิทรรศการด้านเกษตรอินทรีย์และจำหน่ายผลผลิตสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพอีสานใต้, การจำลองการดำเนินชีวิต ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, การแสดงและจำหน่ายสินค้าโอทอป และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด
รวมทั้งจัดการประกวดศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน, การประกวดวาดภาพของนักเรียน, การประกวดการแต่งกายพื้นบ้านประยุกต์, การแข่งขันการสาวไหม, การแสดงศิลปะพื้นบ้าน, การแข่งขันวิ่งมาราธอน และการแข่งขันร่มบิน ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ อีกมาก
โดยเฉพาะการนำเอาผลงานผ้าไหมของสมาชิกศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพอีสานใต้ มาจำหน่ายในราคาประหยัด ซึ่งมีประชาชนจากหมู่บ้านต่างๆ ในทุกอำเภอ นำมาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนการแสดงพิเศษที่สุดเมื่อคืนที่ผ่านมา คือการเดินแบบชุดผ้าไหมยกทอง เฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ต้นตำหรับของผ้าไหมยกทองที่โด่งดังไปทั่วโลก เมื่อคราวได้ทอขึ้นเป็นพิเศษสำหรับตัดเสื้อมอบเป็นของขวัญให้กับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมประชุมเอเปกเมื่อปี 2546 (APEC 2003) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นผ้าไหมยกทองทอด้วยกรรมวิธีการทอมือมีคนทอในแต่ละกี่มากถึง 5 คน
การเดินแบบผ้าไหมยกทองเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ อ.วีระธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้คิดค้นออกแบบแฟชั่นผ้าไหมลายยกทอง ซึ่งทำขึ้นจากผ้าไหมยกทองที่มีลวดลายเรียกได้ว่าสวยงามที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะเป็นผ้าไหมยกทองทอด้วยจำนวนตระกรอมากถึง 1600 ตระกรอ เพื่อให้ผ้าไหมมีความวิจิตรงดงาม ซึ่ง อ.วีระธรรม ได้นำชุดผ้าไหมยกทองใช้ในงานราชพิธี จำนวน 3 ชุดมาแสดงโชว์ ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งใน จ.สุรินทร์และทั่วประเทศ ได้ชื่นชม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา ที่พระองค์ท่านได้ทรงทุ่มเทส่งเสริมพัฒนาการทอผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมาอย่างต่อเนื่อง
ชุดผ้าไหมยกทอง ชุดแรก เป็นผ้าไหมยกทองลายดอกจัน มีหน้านาง เรียกว่า กรวยเชิง สมัยโบราณเรียกว่าผ้าหน้าเก็บ หน้าผ้าเก็บลาย สไบแพร สีทับทิม ผ้าตากปักไหมทอง ผ้าผืนนี้เป็นตาตั๊กแตน สตรีบรรดาศักดิสมัยโบราณนิยมใช้ ซึ่งชาวบ้านท่าสว่างเป็นช่างทอ ใช้เวลาทอผ้า 5-6 เดือน ผ้านุงราคาผืนละกว่า 1 หมื่นบาท ส่วนสไบเป็นผ้าใช้ในราชสำนักไม่ได้มีการตั้งราคา
ชุดผ้าไหมยกทอง ชุดที่ 2 เป็นผ้าไหมยกทอง ลายหลวงในราชสำนัก ผ้าห่มทรงสะพัก ผ้ากรองทองในสมัยโบราณฝ่ายในเป็นคนทำและทอเป็นครั้งแรกเมื่อรัฐบาลให้ทำขึ้นเพื่อทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสพระชนมายุครบ 72 พรรษา เป็นลวดลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ตัดเสื้อในพิธีแรกนาขวัญ ราคาเมตรละ 35,000 บาท
ชุดผ้าไหมยกทอง ชุดที่ 3 สไบ ทำครั้งแรกใช้ตกแต่งละครคณะโจหลุยส์ ผ้านุ่งเพิ่งทำในปี 2551 ใช้สำหรับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นุ่งในพิธีแรกนาขวัญ ราคาเมตรละกว่า 1 แสนบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นฝีมือของช่างชาวบ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินร์ โดย อ.วีระธรรม เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการผลิต ทั้งนี้ประชาชน นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวที่สนใจผ้าไหมยกทองสามารถเข้าชมได้ที่บ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้ทุกวัน