กาฬสินธุ์- สุดยอดผ้าไหมแพรวา แชมป์ฝีมือช่างทอผ้าไหมบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ต้นตำรับใช้ลวดลายโบราณผสมผสานกับสีสันสดๆ ชนะใจกรรมการ ขณะที่ประธานกรรมการประกวดฯระบุเศรษฐกิจตกต่ำชาวบ้านส่งผ้าน้อยแต่คุณภาพคับแก้ว ลวดลายสวยงาม ด้าน พช.กาฬสินธุ์เผยผ้าไหมแพรวายังเป็นสินค้ายอดนิยม 3 ไตรมาสกวดไปเกือบ 1 พันล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นางพิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์ นายกเหล่ากาชาด ในฐานะประธานกรรมการประกวดคัดเลือกผ้าไหมแพรวา และผ้าพื้นเมือง 12 ชนิด ประจำปี 2552 นำคณะกรรมการจากทุกภาคส่วน ของจ.กาฬสินธุ์ ให้คะแนนผ้าไหม 12 ชนิด ที่มีประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ใน 18 อำเภอส่งเข้าร่วมประกวด
บรรยากาศในการส่งผ้าไหมเข้าประกวดในปีนี้ยังคงมีความคึกคัก โดยมีช่างทอผ้ามือใหม่และหน้าเก่าส่งเข้าประกวดจำนวนมาก
นางพิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์ ประธานคณะกรรมการประกวดคัดเลือกผ้าไหม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผ้าไหมที่ส่งเข้าประกวดหากเทียบกับปีที่แล้วน้อยกว่ามาก ในปี 2552 มีผ้าไหมส่งเข้าประกวด 187 ผืน ต่างจากปี 2551 ที่มีการส่งผ้าเข้าประกวดกว่า 500 ผืน ทั้งนี้ สาเหตุน่าจะมาจากสภาพปัญหาของสังคม และเศรษฐกิจ ที่มีผลกระทบต่อการสร้างสรรค์ผลงานของช่างทอผ้าไหม แต่ถ้าเปรียบเทียบคุณภาพของผ้า และลวดลายแล้วปีนี้ผ้าไหมแพรวามีลวดลายที่สวยคุณภาพไหมดีกว่ามาก
สำหรับการคัดเลือกผ้าไหมปีนี้จะมีการคัดเลือกแบ่งประเภทเป็น ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมมัดหมี่ข้อ ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าไหมพื้นเรียบ ผ้าไหมขิดไหม ผ้าไหมลูกแก้ว ผ้าไหมแบบสร้างสรรค์ ผ้าไหมเกล็กเต่า ผ้าไหมโสร่ง ผ้าไหมเรียบบาง ผ้าไหมเรียบเปลือกและผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมสัญลักษณ์ จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ เจ้าของผ้ายังเป็นกลุ่มช่างทอฝีมือเก่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้กลุ่มช่างทอหน้าไหมส่งผลงานเข้าประกวดมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในด้านการส่งเสริมผ้าไหมแพรวา ทาง จ.กาฬสินธุ์ จะมุ่งเน้นพัฒนาด้านในทุกๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพของ จ.กาฬสินธุ์ โดยจะควบคุมด้าน คุณภาพ ความปราณีตและความเป็นสินค้า Hand Made ให้มากขึ้น เนื่องจากผ้าไหมแพรวาในปัจจุบันเป็นผ้าไหมที่ได้รับความนิยมจากประชาชนทุกระดับโดยเฉพาะชาวต่างชาติ เป็นสินค้าที่ยังสามารถจำหน่ายในตลาดได้
ด้านสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยเป้าการจำหน่ายผ้าไหมแพรวาในปี 2552 ที่กำหนดไว้ประมาณ 1,108 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผ่านไปแล้ว 3 ไตรมาส ปรากฏว่า ผ้าไหมแพรวาสามารถจำหน่ายโดยมียอดเกือบ 1,000 ล้านบาทแล้ว และคาดว่า ระยะเวลาอีกประมาณ 4 เดือน ยอดขายผ้าไหมจะสูงขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่