ศูนย์ข่าวศรีราชา- เทศบาลเมืองสัตหีบ จัดกิจกรรมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติ ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ 77 พรรษา โดยมีประชาชนนับพันเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อแสดงความจงรักภักดี และระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
วันนี้ ( 8 ส.ค.52 ) นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันจักรยานสัตหีบแรลลี่เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี 2552 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 77 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่บริเวณหอนาฬิกา สวนกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ โดยได้รับเกียรติจาก นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ร่วมเป็นประธานตัดริบบิ้น ปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ประมาณ 1,000 คัน
ซึ่งขบวนรถจักรยานจะวิ่งไปตามเส้นทางที่เป็นจุดท่องเที่ยวของอำเภอสัตหีบ เพื่อให้นักปั่นได้ชมภูมิทัศน์รอบอ่าวดงตาล ชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ และชมความสวยงามของชายหาดเตยงาม หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน รวมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร
นายรุ่งโรจน์ อ่อนวงศ์ ปลัดเทศบาลเมืองสัตหีบ ผู้ดำเนินโครงการ กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติในครั้งนี้ เป็นการพร้อมใจของพี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบ ร่วมกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดี ต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเสียสละ และทรงดำเนินพระราชกรณียกิจ อันเป็นประโยชน์แก่พสกนิกรปวงชนชาวไทย และในฐานะที่เป็นประชาชนชาวไทย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เทศบาลเมืองสัตหีบได้ร่วมมือกับชมรมจักรยานในเขตพื้นที่อำเภอสัตหีบ จัดกิจกรรมขี่จักรยานเทิดพระเกียรติ ภายใต้โครงการ "เทิดพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี" ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หันมาช่วยกันประหยัดพลังงาน ลดสภาวะโลกร้อน และเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ อีกทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอสัตหีบ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังพบกับวิกฤติอยู่ในขณะนี้
ด้านนายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ กล่าวว่า การที่ประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ได้ออกมาร่วมทำกิจกรรม เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา เวียนมาบรรจบในปีนี้ กิจกรรมที่พี่น้องประชาชนได้ร่วมใจกันทำขึ้นนับเป็นหนึ่งความดี ในการช่วยประเทศชาติประหยัดพลังงาน และลดปัญหาโลกร้อน และถือเป็นการสนองพระราชดำริ ของทั้งสองพระองค์ ที่ทรงเป็นผู้นำในด้านการประหยัดพลังงาน และอนุรักษ์ทรัพย์ยากรธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นพระราชกรณีจกิจหลัก ที่ทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรชาวไทยทรงตระหนึกและระลึกถึงอยู่เสมอ