ฉะเชิงเทรา - คณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดต้องตกตะลึง ท่ามกลางสายตาชาวบ้านพร้อมสื่อมวลชน กว่า 200 คู่ หลังพบหน่วยพิทักษ์ป่า ฉช.8 บ้านนาอิสาน ทำพิลึก จ้างคนงานตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ ถางทำลายป่าดิบพืชพันธุ์ธรรมชาติจนโล่งเตียน เพื่อปลูกป่าเบี้ยกล้าไม้เล็กทดแทน ขณะ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยังป้อง บอกยังไม่ชัด เหตุไม่ได้นำเครื่องจับพิกัดมาตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่คณะกรรมการชุดตรวจสอบปัญหาพื้นที่ป่าตะเข็บรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกตามคำสั่งแต่งตั้งของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 1386/2552 ลงวันที่ 31 ก.ค.52 โดยนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ม.15 ม.16 ม.18 และ ม.19 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และบางส่วนของ จ.สระแก้ว ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาพื้นที่ทำกินทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ารอยต่อ 5 จังหวัดเข้าสำรวจพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน
การเข้าตรวจสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวถึงกับต้องตกตะลึง เมื่อได้พบกับพื้นที่ผืนป่าดิบ ตามแนวตะเข็บป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ถูกแผ้วถางจนป่าเตียนโล่ง ต้นไม้น้อยใหญ่ ถูกโค่นเผาทำลายและยังคงทิ้งซากท่อนซุงขนาดใหญ่ถึง 4 คนโอบ (ต้นกระบก) คาดอายุนับร้อยปี พร้อมตอรากโคนสดไว้ให้ดูต่างหน้า สลับกับการปลูกป่าตามโครงการ ด้วยต้นเบี้ยกล้าไม้ขนาดเล็กแซมลงยังผืนดินเรียงเป็นแถวแนวยาวในพื้นที่เดียวกันกับไม้ที่ถูกตัดโค่น
ทำเอาเจ้าหน้าที่ทั้งคณะ โดยเฉพาะนายชูเกียรติ วงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา นายภูเบศ โกสัจจะ ปลัดอาวุโส อ.สนามชัยเขต ซึ่งเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มชาวบ้าน ต่างพากันอึ้งพูดไม่ออก ท่ามกลางสายตาชาวบ้าน และสื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าวกว่า 200 คู่ โดยเฉพาะคณะทำงานบางหน่วยงาน (เจ้าหน้าที่ป่าไม้) ถึงกับต้องเดินหนีหลบออกไปจากกลุ่มของคณะสำรวจ และบางรายไม่ยอมเดินเข้าไปดูจนถึงยังจุดเกิดเหตุ
โดยนายชูเกียรติ วงศ์ศิริวรรณ ผุอำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ยังไม่ทราบที่มาที่ไปว่าโครงการนี้มีการปลูกป่าอย่างไร และเป็นแปลงของใคร โดยจะให้เจ้าหน้าที่ประจำแปลงทำการชี้แจงมาอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ได้ดูในแผนที่ และตรวจวัดหาค่าพิกัด
ด้านนายปรีชา จุลฬา หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ฉช.8 บ้านนาอิสาน ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว โดยบอกว่า ได้ทำรายงานชี้แจงไปยังทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว
ขณะที่นายจุรินทร์ อินเวียง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.16 ต.ท่ากระดาน ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ผืนป่าบริเวณนี้ตลอดความยาวกว่า 10 กม. ได้ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการตัดโค่นแผ้วถาง จนเตียนโล่ง เพื่อปลูกต้นกล้าไม้ขนาดเล็กขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีทั้งไม้ใหญ่ขนาด 4 คนโอบอย่างที่ทุกคนได้เห็นและไม้มีค่าหลายชนิดถูกตัดโค่นทิ้งทำลายไปเป็นจำนวนมาก
ซึ่งหากเป็นชาวบ้านเข้าไปกระทำการในลักษณะนี้ จะต้องถูกจับกุมในทันที แม้แต่การเข้าไปหาของป่าเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังถูกจับ บางครั้งชาวบ้านยังถูกกลั่นแกล้งด้วยการยัดเหยียดข้อกล่าวหาให้ว่า กระทำการบุกรุกป่าด้วยการ เข้าทำการจับกุมชาวบ้านขณะกำลังทำไร่ อยู่ในผืนดินที่เข้าครอบครองทำกินมานานกว่า 25 ปี และนำตัวชาวบ้านพร้อมจอบเสียม ไปถ่ายภาพภายในป่าเพื่อสร้างหลักฐานในการดำเนินคดี อีกด้วย