ตราด - ผู้บริหารบริษัท CPF มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว “น้องเอ็ม” ฮีโร่ช่วยเด็กจมน้ำ ขณะที่ครอบครัว “น้องบอม” เด็กจมน้ำร่วมงาน เผยบวชหน้าศพแทนคุณ
คืนวานนี้ (4 ส.ค.) ที่วัดอ่าวใหญ่ ต.อ่าวใหญ่ อ.เมืองตราด ที่เป็นสถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพนายเจริญชัย ไชยเจี้ย หรือเอ็ม พนักงานทั่วไปของ บมจ.CPF หลังเสียชีวิตจากการช่วยเหลือน้องบอม เด็กชายวัย 10 ขวบที่ถูกคลื่นทะเลซัดจมที่หาดอ่าวตาลคู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีผู้บริหารของบริษัท CPF จำกัด ได้เดินทางมาร่วมฟังพระสวดอภิธรรม ประกอบด้วย นายสามารถ แสวงอุดมวงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ของ บมจ.CPF โรงเพาะฟักลูกกุ้ง บ้านธรรมชาติ อ.แหลมงอบ จ.ตราด นายสายันห์ ภานุรักษ์ หัวหน้างานของน้องเอ็ม และพนักงานในบริษัท โดยนายสามารถ แสวงอุดมวงษ์ ได้นำพวงรีดในนามของบริษัท, พวงหรีดของนายจรัล เจียรวนนท์, นายธนินท์ เจียรวนนท์ มามอบให้พร้อมกับเงินช่วยเหลือจากบริษัท จำนวน 200,000 บาท และเงินบริจาคจากเพื่อนพนักงานงานอีก 40,000 บาท โดยนางจันทร์หอม สังข์ผาด มารดาของน้องเอ็มให้การต้อนรับและรับมอบ
นอกจากนี้ยังมีครอบครัวของเด็กชายสุทธิพันธ์ มาติยา หรือน้องบอม เด็กชายที่จมน้ำทะเล และน้องเอ็มเป็นผู้ช่วยชีวิตไว้ ที่มาพร้อมกับนายฤทธิรงค์ มาติยา และนางลัดดา ทรัพย์ประเสริฐ มารดานายวัลลภ รัตนมารค เจ้าหน้าที่อนามัย ต.ด่านชุมพล และเพื่อนๆ ของน้องบอม
ภายหลังการสวดพระอภิธรรมจบแล้ว นายสามารถ แสวงอุดมวงษ์ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องเอ็มเป็นไปตามระเบียบของบริษัท โดยผู้บริหารระดับสูงอย่างท่านประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ท่านยังให้ความสนใจในการทำความดีของน้องเอ็มในครั้งนี้
แม้น้องเอ็มจะเป็นพนักงานในระดับล่าง แต่ขั้นตอนของบริษัทก็คือต้องให้การช่วยเหลือทุกคนที่ประสบปัญหา ในกรณีของน้องเอ็มเป็นเรื่องที่พิเศษ เนื่องจากเป็นผู้มีความเสียสละ ทางบริษัทได้นำเรื่องของน้องเอ็มเข้าที่ประชุมใหญ่ของบริษัท เพื่อพิจารณาในการเชิดชูเกียรติในฐานะพนักงานดีเด่น ผู้มีความเสียสละ ให้เป็นตัวอย่างและแบบอย่างแก่พนักงานคนอื่นทั่วไป ถึงแม้น้องเอ็มจะเข้ามาทำงานกับบริษัทได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น
ส่วนน้องบอม เด็กชายรอดชีวิตจากการช่วยเหลือของน้องเอ็มกล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นตัวเองลงไปเล่นบอลกันที่ชายหาด และได้ล้มลงไปจึงถูกคลื่นซัดออกไปในทะเล เพื่อนๆ เห็นก็วิ่งไปบอกหมอวัลลภ หมอวัลลภวิ่งมาช่วยแต่ช่วยไม่ได้ ตอนนั้นตนเองถูกคลื่นซัดจมลงไปและเมื่อโผล่ขึ้นมาก็เห็นพี่เขามาช่วยและเอาห่วงยางมาให้ จึงรอดมาได้ แต่พี่เขาต้องเสียชีวิต ซึ่งตนเองจะบวชหน้าไฟให้ในวันเผาศพ โดยมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนี้ก็จะร่วมบวชให้
ก่อนที่บิดา-มารดาของน้องบอมจะเดินทางกลับ ได้ถูกชาวบ้านที่มาร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพรุมล้อมสอบถามถึงเหตุการณ์ว่าทำไมปล่อยให้ลูกไปเที่ยวทะเลจนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งนางลัดดาก็เล่าให้ฟังว่าไม่ได้เป็นคนพาเด็กๆ ไปเที่ยว แต่หมอวัลลภซึ่งเป็นหมอสถานีอนามัยที่มีความสงสารเด็กๆ ที่มีฐานะยากจน ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนก็เลยพาไป ตนจึงไม่ทราบเหตุการณ์สักเท่าไร หมอพาเด็กกลับมาก็เล่าให้ฟังว่าลูกจมน้ำ ตอนนั้นตกใจเพราะไม่เห็นลูก เนื่องจากลูกนอนมาในหลังรถ แต่ลูกไม่เป็นอะไรมาก ตนเองและครอบครัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น
สำหรับครอบครัวของน้องบอม เป็นชาวบ้านที่ ต.ด่านชุมพล อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 67/1 ม.1 ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด มีอาชีพรับจ้างรายวัน มีลูกชายเพียงคนเดียวคือน้องบอม เรียนหนังสืออยู่ชั้นประถมปีที่ 5 โรงเรียนป้องกันตนเองตำบลด่านชุมพล ฐานะครอบครัวยากจน